กองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมกับ ดิอาจิโอ ประเทศไทย ต่อเนื่องโครงการ “เมาไม่ขับ กลับปลอดภัย” สู่ปีที่ 7
กองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมกับ ดิอาจิโอ ประเทศไทย
ต่อเนื่องโครงการ “เมาไม่ขับ กลับปลอดภัย” สู่ปีที่ 7
รณรงค์ผู้ใช้รถใช้ถนน ขับขี่อย่างมีสติ ดื่มไม่ขับ ร่วมลดอุบัติเหตุ
www.Thainewsvision.com
ภาพ – พาฝัน ปิ่นทองกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) และบริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) หรือ DMHT จัดกิจกรรมรณรงค์ในโครงการ “เมาไม่ขับ กลับปลอดภัย” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 มุ่งหวังเชิญชวนให้คนไทยใส่ใจสวัสดิภาพบนท้องถนน ตอกย้ำปลุกจิตสำนึกเคารพกฎจราจร พร้อมปรับทัศนคติและสร้างวัฒนธรรมการดื่มอย่างรับผิดชอบและเมาไม่ขับ เพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนพล ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจจราจร กล่าวว่า “เทศกาลสงกรานต์เป็นอีกช่วงเวลาที่อุบัติเหตุทางท้องถนนเกิดขึ้นสูงมาก กองบังคับการตำรวจจราจรจึงมุ่งเน้นการรณรงค์อย่างต่อเนื่องในการกระตุ้นจิตสำนึกให้ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมขาดวินัยการจราจร ประมาท เมาแล้วขับ ขับรถเร็ว ไม่สวมหมวกกันน็อค เป็นต้น ด้วยความมุ่งหวังว่าเมื่อประชาชนเคารพในกฎจราจร ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดความเสี่ยงในการทำร้ายตนเองและผู้อื่นบนท้องถนน จะนำไปสู่การลดและป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนได้”คุณธนากร คุปตจิตต์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DMHT กล่าวว่า “ด้วยวิสัยทัศน์ของดิอาจิโอเรื่องแอลกอฮอล์กับสังคม ที่เชื่อว่าหากคนในสังคมมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องการดื่มอย่างรับผิดชอบ ก็จะช่วยลดและป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจาก การดื่มแล้วขับได้ โดยเราได้ดำเนินโครงการรณรงค์สนับสนุนพฤติกรรมการดื่มอย่างรับผิดชอบกว่า 300 โครงการใน 50 ประเทศทั่วโลก และยังมีเป้าหมายร่วมกับองค์การอนามัยโลก ลดอันตรายที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ลงให้ได้ 10% ภายในปี พ.ศ. 2568รวมถึงร่วมมือกับบริษัทในอุตสาหกรรมอีก 12 รายทั่วโลก หรือ CEO Commitmentสำหรับโครงการ “เมาไม่ขับ กลับปลอดภัย” ได้ร่วมมือกับสถานีตำรวจทั้ง 88 สถานี ตั้งจุดตรวจแอลกอฮอล์ 100 จุดต่อวัน ในช่วง 7 วันอันตราย ทั่วพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ นอกจากนี้ เรายังเพิ่มมาตรการตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับขี่รถสาธารณะ และเตือนสติการขับขี่รถสาธารณะในสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพทั้ง 3 แห่ง คือจตุจักร เอกมัย และสายใต้ใหม่อีกด้วย” พล ต.ต. จิรสันต์ กล่าวทิ้งท้าย