“หมู-วรวุฒิ” เปิดตัวหนังสือ “ชีวิต (ไม่) หมู” ถ่ายทอดความสำเร็จจากห้องแถวสู่ธุรกิจหมื่นล้านหนังสือที่คนทำธุรกิจต้องอ่าน พร้อมแนะให้เป็นหนังสือนอกตำราสำหรับนักศึกษา MBA
“หมู-วรวุฒิ” เปิดตัวหนังสือ “ชีวิต (ไม่) หมู” ถ่ายทอดความสำเร็จจากห้องแถวสู่ธุรกิจหมื่นล้านหนังสือที่คนทำธุรกิจต้องอ่าน พร้อมแนะให้เป็นหนังสือนอกตำราสำหรับนักศึกษา MBA
2read และ สต๊อคทูมอร์โรว์ เปิดตัวหนังสือ “ชีวิต (ไม่) หมู” จาก SME ห้องแถว สู่ธุรกิจหมื่นล้าน โดย หมู-วรวุฒิ อุ่นใจ นักธุรกิจมากประสบการณ์ และผู้ก่อตั้งออฟฟิศเมท หนังสือที่เขียนขึ้นจากชีวิตจริงของผู้ประกอบการคนไทยที่ทำธุรกิจขนาดเล็กมาจนกลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ จากติดลบจนสำเร็จ จากธุรกิจเคริ่องเขียนเล็ก ๆ ของครอบครัวที่เริ่มต้นจากจวนเจ๊งมียอดขาย เพียง 5-6 ล้านบาทต่อปี แต่กำไรติดลบ จนเกือบล้มละลาย เติบโตพัฒนาเป็น “ออฟฟิศเมท” บริษัทมหาชนขนาดใหฐ่ ยอดขายหลักหมื่นล้านบาท ณ B2S เซ็นทรัลเวิล์ด โดยในงานได้รับเกียรติจากแขกรับเชิญ กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า , คุณป้อม ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา CEO สำนักพิมพ์ 2read และ สต๊อคทูมอร์โรว์ และ อ.ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย กูรูด้านการตลาด มาร่วมงาน
นายวรวุฒิ อุ่นใจ หรือ หมู เจ้าของหนังสือ “ชีวิต (ไม่) หมู” ได้เผยว่า “หลังจากที่เปิดตัวหนังสือไปกระแสตอบรับดีครับ ติดอันดับ Best Seller ที่ร้านหนังสืออยู่หลายที่ อีกทั้งยังมีหลายคนอินบ๊อกในในเฟสบุ๊กขอบคุณที่ทำหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา ซึ่งหลาย ๆ ท่านบอกมาว่านำไปใช้งานใช้ประโยชน์ได้จริง ๆ การที่ผมเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมานอกจากผมจะอยากให้มองเห็นมุมมองในการทำธุรกิจของผมแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังต้องการบอกนักธุรกิจทั้งหลายว่าในการทำธุรกิจให้เติบโต และประสบความสำเร็จได้มันมีหลักคิดของมันอยู่ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้บอกว่าต้องทำอย่างไร แต่จะบอกว่าก่อนที่จะทำคุณต้องคิดอะไรก่อน เพราะแต่ละธุรกิจมีคาแรกเตอร์ที่ไม่เหมือนกัน แต่วิธีการคิดในการทำธุรกิจมันมีหลักการที่เหมือนกัน หนังสือเล่มนี้เหมือนเป็นเหมือนต้นแบบแนวคิดซึ่งผมได้เขียนมันไว้ในหนังสือ อีกทั้งใครที่เรียนเรื่องการตลาด MBA อยู่ควรอ่านอย่างยิ่งเลย เพราะจะทำให้รู้ว่าเราจะนำสิ่งที่เราเรียนในตำรามาประยุกต์ใช้ได้จริงอย่างไร ซึ่งผมแนะนำว่าเล่มนี้ควรจะเป็นหนังสือนอกเวลาของนักศึกษาการตลาด และคนที่เริ่มต้นทำธุรกิจควรอ่าน เพราะจะทำให้เราเรียนได้ง่าย เข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้ง่ายขึ้นครับ”
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ได้เผยต่อว่า “ผมได้รู้จักคุณหมูในสมัยผมเป็นรัฐมนตรี เมื่อ 10 ปีก่อน รับรู้ถึงความคิดของคุณหมูในช่วงนั้นเลยทำให้สนใจเป็นพิเศษ ซึ่งดีใจที่คุณหมูได้ทำหนังสือเล่มนี้ออกมาได้บอกเล่าเรื่องราวประวัติของคุณหมูเริ่มต้นจากการเป็นนักธุรกิจตัวเล็ก จนยกระดับตัวเองขึ้นมา ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ และคุณหมูยังต้องผ่านวิกฤติระดับโลกมาแล้วถึง 2 ครั้ง ทั้ง ต้มยำกุ้ง กับแฮมเบอร์เกอร์ ในช่วงเวลาเหล่านั้นคุณหมูตัดสินใจและดำเนินการในการแก้ปัญหาวิกฤติแต่ละครั้งอย่างไร ผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับนักธุรกิจ และคนที่อยากทำธุรกิจทุกคน รวมถึงคนที่ต้องการจะขยายธุรกิจของตัวเองให้ใหญ่ขึ้นในเล่มจะให้แนวคิดว่าต้องคิดอย่างไร ควรวางแผนเรื่องอะไร และควรปรับตัวเองอย่างไรให้เข้าสู่กระบวนการแข่งขัน ผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้มีครบเลยครับ นอกจากนี้ช่วงท้ายของหนังสือยังได้พูดถึงความตั้งในทางการเมืองสะท้อนให้เห็นอีกว่าการเป็นนักธุรกิจไม่ใช่ไม่สามารถที่จะมีความคิดความฝันที่จะช่วยเหลือสังคมดีขึ้นได้ แต่ละคนมีบทบาทในช่วงชีวิตของแต่ละคนที่จะมีส่วนช่วยให้สังคมดีขึ้น พ้นจากฐานะนักธุรกิจมาเป็นบุคคลาสาธารณะก็อีกแบบหนึ่งแต่ผมมั่นใจเลยว่า วันนี้ในฐานะนักการเมือง ประสบการณ์การก่อตั้งธุรกิจของคุณหมูที่มีในตัวเป็นประสบการณ์ที่หายาก และเป็นประสบการณ์ที่มีประโยชน์แน่นอนกับการแก้ปัญหาประเทศ ซึ่งผมอยากให้ทุกคนได้ลองอ่านมุมมองความคิดและแนวทางของพี่หมูดูครับ”
อ.ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย กล่าวต่อว่า “ชีวิตไม่หมูผมเรียกได้ว่าเป็นคู่มือการทำธุรกิจที่คนหลาย ๆ รุ่นควรอ่าน รุ่นเบบี้บลูมควรรู้ว่าการทำธุรกิจให้สำเร็จได้ขั้นต่อไปควรทำอย่างไร ถ้าเรามีลูกที่มีความคิดตรงข้ามกับเรา ควรทำอย่างไรให้ลูกของเราฉายศักยภาพได้ คนที่เป็นเจน y และ z จะได้รู้ว่าคนทำธุรกิจรุ่นก่อน ๆ เค้าทำอย่างไร สร้างธุรกิจมาอย่างไร ดูแลลูกน้องที่เก่ง ๆ อย่างไร เจรจาซัพพลายเออร์อย่างไร ปั้นสินค้าธุรกิจอย่างไรให้ได้ราคา เรียกได้ว่าเป็นคู่มือทำธุรกิจอย่างไรให้ประสบความสำเร็จที่อ่านได้ทุกเจเนอเรชั่น สำหรับคนที่อ่านหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่แค่อ่านเอาสนุกอย่างเดียว แม้ว่าจะเป็นหนังสือที่สนุก ไม่ใช่หนังสือที่อ่านเพื่อที่จะเอามาเลียนแบบ เพราะไม่มีใครเลียนแบบใครได้ อ่านแล้วจดประเด็นไว้แล้วดูว่าพี่หมูทำอย่างไร เราควรทำอย่างไรให้ดูบริบทเป็นหลัก ซึ่งหลักในเล่มสามารถใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย แต่ต้องปรับนำมาใช้ให้เป็นและเข้ากับยุคสมัยให้เป็นด้วย”
นอกจากนี้ด้านคุณป้อม ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา CEO สำนักพิมพ์ 2read และ สต๊อคทูมอร์โรว์ ได้กล่าวปิดท้ายว่า “การที่ได้จัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี จริง ๆ แล้วพี่หมูเป็นไอดอลของผมด้วยนะถ้าคนที่เป็นนักธุรกิจจะรู้ว่า พี่หมูเป็นคนที่สร้างธุรกิจด้วยตัวเองสร้างธุรกิจจากที่ติดลบมาด้วยซ้ำไป หลายคนบอกไม่มีอะไรเลยแล้วจะทำธุรกิจได้อย่างไรให้ดูพี่หมูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเล่มนี้ผมว่าเป็นหนังสือที่ดีที่อยากถ่ายทอดให้กับคนที่มีความสนใจในการทำธุรกิจ เพราะว่าสิ่งที่คนสำเร็จแล้วมาพูดผมว่ามันจะคอนเฟิร์มว่าสิ่งเหล่านี้แหละมันเอามาใช้ประยุกต์กับการทำธุรกิจของตัวเองได้จริง หนังสือเล่มนี้ 80% เป็นฮาวทู อีก 20% เป็นอินสไปเรชั่น หมายความว่ามีเรื่องของขั้นตอน และแรงบันดาลใจเข้ามาด้วย และช่วงนี้เราอยู่ในช่วงวิกฤติที่สำคัญเราอยู่กันมา 2 ปีกว่าแล้ววิกฤติมันใกล้จะจบแล้ว ผมว่าการที่เราได้อ่านหนังสือพี่หมูเขียนจะทำให้เรารู้เลยว่าถ้าเราจะประสบความสำเร็จเราต้องผ่านวิกฤติไปให้ได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีเลยที่เราจะได้ลองศึกษาชีวิตของคนที่ประสบความสำเร็จ ว่าเค้าผ่านวิกฤติมาหลายครั้งมาได้อย่างไร หนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคน การเรียนรู้ที่ดีที่สุดคืออาการเรียนรู้จากคนที่สำเร็จแล้วการได้อ่านหนังสือของคนที่จริงใจกับผู้อ่านด้วยเป็นเรื่องสำคัญ พี่หมูเป็นคนที่จริงใจที่อยากจะถ่ายทอดเรื่องราว ฮาวทูของตัวเองมอบให้กับผู้อ่านผมไม่อยากให้เสียเวลาลองหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านดูครับ”
หนังสือ “ชีวิต (ไม่) หมู : จาก SME ห้องแถว สู่ธุรกิจหมื่นล้าน” หนึ่งในคัมภีร์วิทยายุทธที่คนค้าขาย และคนทำธุรกิจทุกขนาดควรได้อ่าน สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถหาซื้อได้แล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อโดยตรงกับสำนักพิมพ์สต็อคทูมอร์โรว์ www.stock2morrow.com/publishing/book.php
สอบถามโทร 02-6320645