“ปากแพรก” ถนนคนเดินสุดเพลินกับบรรยากาศสดใส ในสไตน์ซีเปียร์
“ปากแพรก” ถนนคนเดินสุดเพลินกับบรรยากาศสดใส ในสไตน์ซีเปียร์
www.Thainewsvision.com
ข่าว – ภาพ พาฝัน ปิ่นทองอย่างที่ทราบกันดีว่า “จังหวัดกาญจนบุรี” มีสถานท่องเที่ยวที่ขึ้นอยู่อยู่หลายแห่ง ทั้ง “อุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณ” ที่สวยงามอยู่ทางกลางธรรมชาติ น้ำใสไหลเย็นมองเห็นปลาแหวกว่ายหรือจะเป็น “สังขละบุรี” ซึ่งมีสถานที่สำคัญอย่างสะพานมอญ โบสถ์ใต้น้ำ วัดวังก์วิเวการาม(วัดหลวงพ่ออุตตมะ) และบรรยากาศสุดชิว ท่ามกลางสายหมอกบาง ๆ แห่งลุ่มน้ำสามประสบ รวมทั้ง “เขื่อนศรีสวัสดิ์” ว่ากันว่ามีบรรยากาศที่ดีและสวยงาม จนถูกขนานนามว่าเป็นเมาดีฟเมืองไทยแต่หากมาเมืองกาญจน์ แล้วไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับ “สะพานข้ามแม่น้ำแคว” ที่เป็นสะพานรถไฟที่พาดผ่านแม่น้ำแควใหญ่ในอำเภอเมือง ดูเหมือนว่าจะยังมาไม่ถึง เพราะนอกจากสวยงามด้านสถาปัตยกรรมของตัวสะพานแล้ว เรื่องราวทางประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่สองก็ยังคงสร้างความน่าสนใจให้ผู้คนทั่วไปได้เป็นอย่างดีแล้วรู้หรือไม่ว่า เมืองกาญจน์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสุดชิกและน่าสนใจอย่าง “ถนนปากแพรก” ซึ่งเป็นถนนสายแรกของจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีมาพร้อมกับตั้งเมืองกาญจนบุรีเมื่อประมาณ 185 ปีก่อนด้วยความเป็นชุมชนเก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3ทำให้ที่นี่มีบ้านเก่า ๆประตูไม้บานใหญ่ ๆ และมุมเก๋ ๆ ให้ถ่ายรูปจำนวนมาก ที่สำคัญบ้านเรือนเก่าของที่นี่ดูแปลกตากว่าทุกที่ เพราะมีทั้งบ้านแบบฝรั่ง จีน ญวน และแบบไทยเรียงรายอยู่ 2 ฝั่งถนน ตามแนวกำแพงเมืองนอกจากนี้ บ้านเรือนบนถนนสายนี้ เจ้าของบ้านยินดีเปิดให้ผู้สนใจได้เยี่ยมชมได้ทุกวันเสาร์ พร้อมทั้งเล่าประวัติความเป็นมาของบ้านแต่ละหลังให้ฟังโดยละเอียด หรือบ้านบางหลังที่ยังไม่ได้เปิดให้เยี่ยมชม ก็มีข้อมูลแสดงไว้บนแผ่นป้ายอะคิลิกแสดงไว้อย่างน่าสนใจทำให้ผู้มาเยี่ยมชมรู้ว่าชุมชนบนถนนบางแพรกเป็นบ้านเดิมของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ซึ่งได้บวชเรียนอยู่ที่วัดเทวสังฆาราม (อยู่ทางงเหนือของถนนปากแพรก)ก่อนไปศึกษาพระธรรมต่อที่วัดบวรนิเวศวิหาร และได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ของประเทศไทยทั้งยังเป็นบ้านเกิดและที่อยู่อาศัยของบุคคลสำคัญของไทยหลายคน ทั้งอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูล ศิลปินแห่งชาติ หมอประเวศ วะสี นักคิดนักเขียนชื่อดัง รวมทั้งพระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของไทย ก็มีเรือนหออยู่ที่นี่ด้วยเช่นกันแต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้น ก็คือเรื่องราวของบ้านแต่ละหลังและเรื่องราวของผู้คนที่อาศัยในชุมชนแห่งนี้ ซึ่งผ่านเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สำคัญ ตั้งแต่การตั้งเมืองกาญจนบุรีและในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้านแต่ละหลังยังคงถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีและทุกวันเสาร์ตั้งเวลา 16.00-21.00 น. ที่ถนนปากแพรกถูกกั้นให้เป็นถนนคนเดิน ซึ่งเชื่อมเส้นทางตั้งแต่ถนนหน้าหลักเมือง ผ่านหน้าจวนผู้ว่ามาถึงหน้าเมืองและเลี้ยงเข้าถนนปากแพรก สิ้นสุดบริเวณหน้าบานสิทธิสังข์พอดีสินค้าที่วางจำหน่ายที่ถนนคนเดินปากแพรก ส่วนใหญ่ก็เป็นเครื่องใช้เก่า ๆ ภาวาด งานศิลปะ แต่ที่ดูมากเป็นพิเศษก็คือสินค้าเกษตร พืชผักปลอดสารพิษ ผลไม้นานาชนิด เช่น มะพร้าวน้ำหอม มะม่วงน้ำดอกไม้มันซึ่งเป็นพันธุ์ดั้งเดิมของกาญจนบุรี ฯลฯ แต่ที่ถูกใจที่สุดเห็นทีจะเป็น ข้าวเกรียบปากหมอ ที่ต้องทานกันสด ๆ ตรงนั้น ซึ่งเป็นรูปแบบของข้าวเกรียบปากหม้อของอำเภอท่าเรือ หรือขนมทองโย๊ะขนมไทยโบราญที่หาทานได้ยาก ก็มีจำหน่ายบนถนนเส้นนี้ด้วยสินค้าอื่น ๆ ที่น่าสนใจมีอยู่มากมาย ที่สำคัญราคาไม่แพงเลย เพราะเกษตรกร ชาวบ้านต่างนำมาจำหน่ายกันเองในอดีต ปากแพรกเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งทางเรือ ทำให้ที่นี่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของกาญจนบุรีอย่างมาก แม้ปัจจุบันการขนส่งทางอื่น ๆ มีความสะดวกและรวดเร็วกว่า แต่ที่นี่ก็ยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้จากความน่าสนใจของตัวเอง…