ซาลามัต ดาตัง นราธิวาส
ซาลามัต ดาตัง นราธิวาส
www.Thainewsvision.com
เรื่อง – ภาพ พาฝัน ปิ่นทอง
นราธิวาส ถือเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีความเงียบสงบ และมีเอกลักษณ์ชัดเจนทางด้านของวัฒนธรรมและความงามตามแบบฉบับของมุสลิม ซึ่งคงความมีเสน่ห์อยู่ไม่น้อยสำหรับผู้ที่ต้องการจะมาเยือน แม้ว่าประชากรส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิสลาม กระนั้นก็ยังมีชาวไทยพุทธ และชาวไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่ร่วมกันในพื้นที่มายาวนานหลายสิบปี
“นราธิวาส” เป็นคำที่ตั้งขึ้นใหม่ในปี พ.ศ.2458 แปลว่า ที่อยู่ของคนดี มาจากชื่อเดิมในภาษามลายูว่า มนารา หรือ มนารอ (Menara) ซึ่งมาจากคำเต็มว่า “กัวลา มนรา (Kuala Menara)” ที่แปลว่า “กระโจมไฟ หรือหอคอยปากแม่น้ำ” เนื่องจากเป็นเมืองชายฝั่งตะวันออกของแหลมมลายู อยู่ริมฝั่งทะเลอ่าวไทย ประกอบกับมีแม่น้ำสำคัญ 4 สาย คือ แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำตากใบ และแม่น้ำสุไหงโก-ลก
ดังนั้นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำโดยนายชูชาติ อ่อนเจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ จึงได้จัดทริปนำสื่อมวลชนส่วนกลางจากกรุงเทพมหานครฯลงพื้นที่ในจังหวัด นราธิวาสเพื่อเที่ยวชมงานของดีเมืองนรา ครั้งที่ 40 ประจำปี 2558 พร้อมชมแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ เช่น มัสยิด 300ปี ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ วัดชลธาราสิงเห (วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย) ชายหาดนราทัศน์ น้ำตกฉัตรวาริน อุทยานแห่งชาติเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดี เป็นต้น
คณะเราเริ่มต้นจากสนามบินดอนเมืองด้วยสายการบินแอร์เอเซีย เที่ยวบิน FD 3130 เพื่อมุ่งตรงสู่จ.นราธิวาส เราเริ่มต้นทริปด้วยการกราบสักการะ พระพุทธอุทยานเขากง (วัดเขากง-พระพุทธทักษิณมิ่งมงคลมีเนื้อที่ 142 ไร่ ตั้งอยู่ที่ตำบลลำภู จากตัวเมืองใช้เส้นทางนราธิวาส-ระแงะ พระพุทธรูปทักษิณมิ่งมงคลสีทองปางปฐมเทศนาขัดสมาธิเพชรอยู่บนยอดเขา เป็นศิลปะสกุลช่างอินเดียตอนใต้ เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2509 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2512 องค์พระเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยโมเสกสีทอง หน้าตักกว้าง 17 เมตร ความสูงวัดจากพระเกศบัวตูมถึงบัวใต้พระเพลา 24 เมตร จัดเป็นพระพุทธรูปกลางแจ้งที่งดงามและใหญ่ที่สุดในภาคใต้ จากนั้นคณะเราได้ใช้ทางหลวงหมายเลข 4084 (นราธิวาส-ตากใบ) เพื่อไปสัมผัสความงดงามทางธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติ อ่าวมะนาว เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่สำคัญของ จังหวัดนราธิวาส ที่มีหาดทรายขาว สลับกับโขดหิน กระจัดกระจาย อยู่ทั่วบริเวณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ อ่าวมะนาว – เขาตันหยง และโอบล้อม ด้วยเนินเขาสูง ตลอดแนว ซึ่งมองดูแล้วมีความสวยงาม เป็นอย่างมาก ที่สำคัญ ในเขตที่เป็นป่าติดกับหาดทรายนั้น ยังมีน้ำตก ที่นักท่องเที่ยว สามารถลงเล่นน้ำได้ อีกด้วย น้ำตกแห่งนี้ ทาง อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว – เขาตันหยง ตั้งชื่อว่า “น้ำตกธาราสวรรค์” แต่น้ำตกแห่งนี้จะพบในช่วงฤดูฝนเท่านั้น เป็นน้ำตกที่ มีต้นกำเนิดมาจาก ภูเขาสูงในเขตพระราชฐาน และได้ไหลลงสู่อ่าวไทยในเขตของ อุทยานฯด้วย
เราเริ่มต้นเช้าวันที่สอง ด้วยการเดินออกมาสำรวจบรรยากาศที่คึกคักของตลาดสดยามเช้าในอ.เมือง จ.นราธิวาส ปลาสดตัวโตๆ ลองกองที่ถูกแสนถูก สะตอสดมัดเป็นพวงช่างสร้างตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองนราธิวาสซะจริงๆ
“การทักทาย ด้วยมิตรไมตรีและท่าทีที่ยิ้มแย้มแจ่มใสของแม่ค้าในตลาดยามเช้า ช่างสร้างความดีใจให้เราก้าวเดินรอบตลาดอย่างมั่นใจซะจริงๆ การต้อนรับด้วยไมตรีที่ผ่านแววตาที่ดีของเจ้าบ้าน แม้จะสื่อกันด้วยภาษาที่เราเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ฉันคนหนึ่งล่ะที่รู้สึกกับเธอ..ดีจัง”
หลักจากสนุกสนานกับรอยยิ้ม มิตรภาพดีๆของพี่น้องในตลาดของชุมชนมุสลิมเป็นอย่างดี เราต่อกันเลยในงานของดีเมืองนราธิวาสปี 2558 สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (สวนหลวง ร.5) บริเวณศูนย์ราชการ อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อชมนิทรรศการการแสดงผลิตภัณฑ์กระจูด และงานศิลปาชีพพิเศษ ชมการสาธิตการจัดทำผลิตภัณฑ์ชุมชน อาทิ การปักผ้า ทอผ้า ย่านลิเภา กระจูด และผลิตภัณฑ์เรือกอและจำลอง ฯลฯ ช็อปปิ้งซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP จาก 13 อำเภอ และเครือข่ายทั่วประเทศ
จังหวัดปลายสุดแดนด้ามขวานติดชายแดนมาเลเซีย อีกหนึ่งพื้นที่ที่ผู้คนเปี่ยมไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ศาลเจ้าโกวเล้งจี่ มีความหลากหลายในวัฒนธรรม องค์พระพิฆเนศ เทพเจ้าจีน พุทธศาสนา ตั้งอยู่ในพื้นที่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2457ตามหลักฮวงจุ้ย หันหน้าออกทะเล เดิมเป็นศาลไม้เก่าแก่ อายุประมาณ 40 ปี สร้างขึ้นบริเวณ “เขามงคลพิพิธ” ซึ่งเป็นเขาที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยภายในศาลเจ้าได้ประดิษฐานองค์พระ และเทพเจ้าต่างๆ รวม 23 องค์ นอกจากนี้ ยังมีประติมากรรมปูนปั้น และภาพเขียนฝาผนังลายเส้นอ่อนช้อยสวยงามตามแบบศิลปะจีนให้ชมอีกด้วย ห่างกันไปไม่กี่ก้าวเราก็จะพบกับ “พระพิฆเนศ” องค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ทางซ้ายของศาลเจ้าโก้วเล้งจี่ ขนาดหน้าตักกว้าง 7 เมตร สูง 16 เมตร ใช้เวลาก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 9 ปี โดยมีสีสัน และรูปลักษณ์ประณีตสวยงามอย่างยิ่ง สำหรับความเป็นมาของประติมากรรมพระพิฆเนศองค์นี้ จัดสร้างขึ้น โดยนายอินดาร์แซล บุศรี เจ้าของกิจการร้านดีวรรณพาณิชย์ ผู้จำหน่ายผ้ารายใหญ่ในพื้นที่เป็นโต้โผใหญ่ ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในองค์พระพิฆเนศ เทพเจ้าแห่งศิลปะ ความเมตตา และความสำเร็จตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ประกอบกับต้องการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินไทยซึ่งตนได้มาพำนักอาศัย และประกอบกิจการจนเจริญก้าวหน้ามากว่า 60 ปี จึงสร้างองค์พระพิฆเนศ พร้อมวิหารองค์เทพหนุมาน และองค์เทพไสบาบา ประดิษฐานอยู่ทางซ้าย และขวา เพื่อให้เป็นที่เคารพสักการะสำหรับผู้เสื่อมใสศรัทธาที่เดินทางมาจากทุกสารทิศ
ถึงเวลาพักผ่อนเบา เบาหลังจากอิ่มอร่อยด้วยอาหารเจรสชาติดีกันแล้ว น้ำตกปาโจ เป็นที่หมายต่อไปที่คณะเราจะไปลัลลากัน น้ำตกปาโจก็เป็นน้ำตกแหล่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ บูโด – สุไหงปาดี แห่งนี้ที่มีความสวยงามตามธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่ง มีความสูงประมาณ 60 เมตร เป็นส่วนหนึ่งของอุทยาน แห่งชาติบูโด – สุไหงปาดี มีสภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีพันธุ์ไม้ที่มีค่านานาชนิดในอุทยานฯมีน้ำตกอยู่หลายแห่ง เช่น น้ำตกภูแว น้ำตกปาโจ และน้ำตกปากอ แต่ที่รู้จักกันทั่วไป น้ำตกปาโจ? เป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงกว้าง คำว่า ปาโจ? เป็นภาษามลายูท้องถิ่นมีความหมายว่า น้ำตก นับว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดและสวยงามแห่งหนึ่งของภาคใต้แต่เนื่องจากสภาพป่าโดยรอบไม่สมบูรณ์นักในหน้าแล้งน้ำจึงค่อนข้างน้อยนอกจากน้ำตกยังมีสถานที่น่าสนใจอื่นๆ ได้แก่ ศาลาธารทัศน์ ซึ่งเคยเป็นพลับพลาที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในคราวเสด็จประพาสจังหวัดนราธิวาส และยังมีก้อนหินสลักพระปรมาภิไธยตั้งอยู่ในบริเวณน้ำตกปาโจด้วย
ของดีเมืองนรายังมีกิจกรรมให้ชมกันอีกเยอะอาทิชมการแข่งขันประชันเสียงนกเขาชวาเสียงชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพ-รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 4 ประเภทเสียง เสียงใหญ่ เสียงกลาง เสียงเล็ก และดาวรุ่ง ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา บริเวณศูนย์ราชการ อ.เมือง จ.นราธิวาส ชมขบวนแห่เรือบุปผชาติทางน้ำหน้าพระที่นั่งฯ ณ บริเวณริมเขื่อนท่าพระยาสายพร้อมร่วมเชียร์การแข่งขันเรือกอและ เรือยาว เรือยอกอง และเรือคชสีห์นานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทานฯ รอบชิงชนะเลิศ ณ บริเวณริมเขื่อนท่าพระยาสาย อ.เมือง จ.นราธิวาส
มาถึงตากใบแล้วคณะเราไม่พลาดที่จะแวะ วัดชลธาราสิงเห (วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย) เป็นวัดเก่าแก่ ตั้งอยู่หมู่ 3 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ สร้างขึ้นปลายรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ในสมัยดินแดนตากใบยังเป็นรัฐกลันตัน โดยวัดแห่งนี้ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติเมื่อ พ.ศ. 2403 สมัยนั้นดินแดนตากใบยังเป็นของรัฐกลันตันอยู่ วัดนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับกรณีแบ่งแยกดินแดนตากใบประเทศสยามกับประเทศมลายู ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษในขณะนั้น (สมัยรัชกาลที่ 5) โดยฝ่ายไทยได้มีการยกเอาพระพุทธศาสนา วัดและศิลปะในวัดเป็นเครื่องต่อรองการแบ่งปันเขตแดน อังกฤษจึงยอมรับเหตุผลโดยให้นำเอาแม่น้ำโกลกตรงบริเวณที่ไหลผ่านเมืองตากใบ (แม่น้ำตากใบ) เป็นเส้นแบ่งเขตแดน วัดนี้จึงรู้จักในอีกนาม หนึ่งว่า วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย วัดชลธาราสิงเหนอกจากเป็นวัดที่มีบทบาทสำคัญทางการเมืองแล้ว วัดแห่งนี้ยังเป็นวัดที่มีศาสนสถานที่เก่าแก่ซึ่งล้วนแต่มีศิลปะงดงามหลายอย่าง อาทิเช่น อุโบสถ กุฏิ และศาลาที่เรียงรายล้อมรอบบริเวณวัดเป็นต้น ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 3 กม. จากสี่แยกตลาดตากใบเลยไปยังแม่น้ำตากใบ มีสะพานไม้ชื่อ ” สะพานคอย 100 ปี ” ยาว 345 เมตร ป็นสะพานไม้ที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำตากใบไปยัง ” เกาะยาว ” ซึ่งทางด้านตะวันออกของ ” เกาะยาว ” จะติดกับทะเล มีหาดทรายละเอียดสีขาวสวยงาม สามารถเล่นน้ำได้ ซึ่ง ทางด้านตะวันออกของเกาะจะติดกับทะเล มีหาดทรายละเอียดสีน้ำตาล บรรยากาศสงบทำไมถึงต้องเรียกว่า ” สะพานคอย 100 ปี “ เพราะสมัยก่อนเกาะยาวซึ่งอยู่ตรงข้ามที่ว่าการอำเภอตากใบ ฝั่งด้านหนึ่งติดกับทะเลอ่าวไทย ส่วนอีกฝั่งด้านหนึ่งติดแม่น้ำตากใบ เป็นเกาะที่มีความยาวประมาณ 9 กิโลเมตร มีชายหาดทรายขาวสะอาด มีทิวมะพร้าวเรียงรายเป็นแนวยาวสวยงามประชากรส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บนเกาะยาวนับถือศาสนาอิสลาม มีอาชีพทำการประมงและสวนมะพร้าว เมื่อก่อนจะเดินทางมายังฝั่งที่ว่าการอำเภอต้องใช้เรือ กว่าจะมีการสร้างสะพานไม้ระหว่างเกาะยาวไปยังฝั่งที่ว่าการอำเภอต้องคอยถึง 100 ปี จึงเป็นสาเหตุให้ประชาชนเรียกสะพานดังกล่าวว่า ” สะพานคอย 100 ปี ”
ไม่ไกลจากสะพานคอยมากนักคณะเราก็ตรงดิ่งไปพบกับพี่เซียเจ้าเก่า ผู้ผลิตปลากุเลาแท้ หนึ่งในของฝากที่พลาดไม่ได้จากตากใบ ด้วยกรรมวิธีการผลิตใช้สูตรแบบดั้งเดิม เนื้อนุ่ม หนังกรอบ เรื่องความอร่อยไม่ต้องพูดถึงมาเต็มของแท้จากท้องทะเลตากใบ โลละ 1,500 บาทเอง ก่อนกลับกทม. ผช.ผอ.ชูชาติ อ่อนเจริญ ททท.ภูมิภาคภาคใต้กล่าวว่า จะให้คณะสื่อมวลชนกลับบ้านมือเปล่ากันได้ไงว่าแล้วคณะททท.ภูมิภาคภาคใต้ก็นำพาคณะเราไปถึงชุมชนบาเละฮีเล ผู้ผลิตข้าวเกรียบปลาทูสดทอดร้านอร่อยที่นราธิวาสทั้งช็อป ทั้งชม ทั้งชิมข้าวเกรียบปลาหูอันกรุบกรอบหอมอร่อยร้อนๆบวกกับลองกอง ตันหยงมัสแท้ๆกว่า 10 โล นี่นักข่าวอึดทึกอย่างดิฉันหอบหิ้วขึ้นเครื่องบินด้วยสายการบินไทยสมยล์ WE 292 ถึงเมืองหลวงอย่างปลอดภัย 3 คืน 4 วันที่นราธิวาสยังน้อยไปสำหรับความสุข ความสนุความประทับใจ มิตรภาพไมตรีดีๆที่ชาวนราธิวาส ร่วมใจกันมอบให้นักท่องเที่ยวที่รอการมาเยือนแบบไม่รู้ลืม ตือรีมอกาเซะ นาฆอ ขอบคุณนะ..นราธิวาส