เที่ยวท่องไปกับTravel Line by Phototech @ อุดรธานี – หนองคาย

เที่ยวท่องไปกับTravel Line by Phototech @ อุดรธานี – หนองคาย
www.Thainewsvision.com
เรื่อง –ภาพ พาฝัน ปิ่นทอง

 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดร ร่วมกับ Travel Line by Phototech จัดทริปพิเศษ ท่องเที่ยววิถีไทย อัตตลักษณ์ผ้าไทย อันทรงคุณค่าระดับโลก และร่วมสักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อุดรธานี – หนองคาย ตามโครงการ “เส้นไหม ใยฝ้าย ลายหมี่-ขิด วิถีชีวิตชุมชน” 11 – 13 กันยายน 2558
จังหวัดอุดรธานี ถือเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของแหล่งอารยธรรมบ้านเชียง ซึ่งเป็นร่องรอยของอารยธรรมมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนอกจากนี้ อุดรธานียังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง มีการทำหัตถกรรมที่น่าสนใจต่างๆ เช่น ผ้าขิด ชุมชนพื้นบ้านมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายมีเสน่ห์ตามแบบฉบับชุมชนไทยอีสาน ในเมืองและตามสถานที่ต่างๆ มีโรงแรมที่พักมากมาย และการคมนาคมสะดวกสบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีสนามบิน อุดรธานีจึงเป็นอีกเมืองหนึ่งที่นักเดินทางไม่ควรพลาดมาเยี่ยมเยือน
เราใช้เส้นทางขอนแก่น บายพาส – สกลนคร – บ้านดุง – คำชะโนดเพื่อร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในดินแดนแห่งความลี้ลับที่วัดป่าคำชะโนด หรือวัดศรีสุทโธ  จ.อุดรธานี ประตูสู่ดินแดนแห่งความลี้ลับตำนาน “ ผีจ้างหนัง” ตามความเชื่อของคนท้องถิ่นเก่าแก่ เชื่อว่าคือป่าศักดิ์สิทธิ์ ที่มีตำนานลี้ลับซึ่งชาวบ้านทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และชาวลาวให้ความนับถือ เชื่อว่าเป็นที่ตั้งของเมืองนาคินทร์ และวังพญานาค (วังนาคินทร์คำชะโนด) ต้นตำนานแม่น้ำโขง มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่าเป็นดินแดนแห่งเมืองพญานาคที่พญานาคเดินทางขึ้นมาบนเมืองมนุษย์เพื่อมากราบขอพร พ่อปู่ศรีสุทโธ และรับน้ำมนต์จากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และยังเป็นป่าที่มีความน่าสนใจ หนึ่งเดียวในโลกที่มีต้นชะโนดอายุหลายร้อยปีขึ้นอยู่เต็มพื้นที่ นอกจากจะมีเรื่องเล่าผีจ้างหนังที่ป่าคำชะโนดแล้ว ผืนป่าแห่งนี้ยังมีเรื่องน่าประหลาดอีกเรื่องคือ เวลาน้ำแล้งก็จะเห็นว่าดินเชื่อมต่อกัน แต่เวลาน้ำท่วม ที่ดินรอบๆ จะท่วมหมด แต่ปรากฏว่าป่านี้น้ำไม่ท่วม น้ำขึ้นสูงอย่างไรก็ไม่ท่วม ชาวบ้านเชื่อว่า เกาะแห่งนี้นี้ลอยน้ำได้ และเชื่อว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะเจ้าที่เป็นคนทำไม่ให้ผืนป่าแห่งนี้จมน้ำถือเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก. . .เช่นเดียวกับใครที่อยากจะเข้าไปสัมผัสป่าลี้ลับคำชะโนดก็ต้องสำรวมและปฏิบัติตามข้อห้ามอื่นๆ เป็นต้นว่า ห้ามใส่รองเท้าทั่วทั้งบริเวณป่า หมวก แว่นตา ร่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ห้ามเด็ดขาด เพราะสิ่งเหล่านี้คือการดูถูกดูหมิ่นต่อผู้ปกปักรักษาผืนดิน …
หลังจากที่คณะเราเติมพลังความสดชื่นด้วยอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์สุดแสนอร่อยที่โรงแรม เจริญโฮเต็ลแล้ว จากนั้นพร้อมออกเดินทางมาที่ วัดโพธิสมภรณ์เป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ที่ตำบลหมากแข้ง มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ ปลายรัชกาลที่ 5 โดยมหาอำมาตย์ตรีพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร(โพธิ เนติโพธิ) สมุหเทศาภิบาลมณฑลอุดร ได้ชักชวนราษฎรในหมู่บ้านหมากแข้งสร้างวัด ซึ่งชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดใหม่ วัดโพธิสมภรณ์เป็นวัดสายกัมมัฏฐาน      ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์บูรพาจารย์ฝ่ายกัมมัฏฐานในชั้นที่ 2 จัดแสดงภาพจิตรกรรมฝาผนัง เรื่องราวปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต สะท้อนภาพประวัติศาสตร์ของพระสงฆ์ในวัดโพธิสมภรณ์มุ่งศึกษากัมมัฏฐาน ปฏิบัติสืบต่อตามครูอาจารย์อีกทั้งยังมีพระบรมธาตุธรรมเจดีย์ ถีอเป็นอีกหนึ่งพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความเคารพศรัทธาจากชาวอุดรฯ จัดสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก บรรจุคำสั่งสอนพระพุทธเจ้า บรรจุอัฐิธาตุพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และน้อมเกล้าฯถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา นอกจากนี้กิจกรรมการปฏิบัติธรรม เปิดโอกาสให้ประชาชนผู้สนใจการปฏิบัติกรรมฐานช่วงวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.00-20.30 น เฉพาะวันอาทิตย์ เวลา 9.00-16.30 น.
สถานที่อีกแห่งที่สำคัญ ของชาวจังหวัดอุดรธานี คือ ศาลเจ้าปู่ย่า เป็นศาลเจ้าสร้างแบบจีน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับประกอบพิธีการต่างๆ ของชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งลูกหลานชาวไทยเชื้อสายจีน รวมทั้งชาวจังหวัดอุดรธานี นิยมมากราบไหว้เพื่อขอพรและความเป็นสิริมงคล ศาลเจ้าปู่ย่าแห่งนี้ได้รับการยอมรับในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่มากราบไหว้ขอพรในสิ่งใดมักจะสำเร็จสมปรารถนาตามที่ขอเสมอ ใกล้กันนั้นยังเป็นที่ตั้งของศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันไม่ไกล  จากศาลเจ้าปู่ย่า เป็นจุดศูนย์รวมของการอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ หลักปรัชญาการดำเนินชีวิตของบรรพชนเดิมซึ่งป็นชาวจีนอพยพมาตั้งถิ่นฐานในจังหวัดอุดรธานี ศูนย์วัฒนธรรมแห่งนี้จัดสร้างขึ้นโดยพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดอุดรธานี ได้รับกล่าวขาน ถึงความศักดิ์สิทธิ์แผ่ความเมตตาแก่คนยาก ไร้ ผู้ใดมีทุกข์โศก มักจะไปจุดธูปขอให้ความทุกข์ที่มีอยู่สลายไปหรือไปบนบานศาลกล่าวขอให้การค้าเจริญรุ่งเรืองและมักจะได้บารมีจาก เทพเจ้าปู่ย่าดลบันดาลให้สมหวังในสิ่งที่ขออีกด้วย
บ้านหัตถกรรมนิศาชล ถือเป็นอีกหนึ่ง สินค้า OTOP ของจังหวัดหนองคาย ที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นมรดกภูมิปัญญาอีสานคณะเราได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากท่านอัจฉพรรณ บุญเจริญ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี และคุณแม่ นิศาชล บุปผาสังข์ เจ้าของบ้านหัตถกรรมนิศาชลพร้อมรับประทานมื้อกลางวันมื้อใหญ่ร่วมกัน
บ้านหัตถกรรมนิศาชลแห่งนี้ ดำเนินงานโดยคุณแม่ นิศาชล บุปผาสังข์ นอกจากจะผลิตและจำหน่ายผ้าไทยแล้ว ยังเป็นอีกแหล่งอนุรักษ์ภูมิปัญญาการทอผ้า ย้อมผ้า ดั้งเดิมของชาวอีสาน ที่ใช้เทคนิคพิเศษในการผสมผสานเส้นใยให้ได้เนื้อเนียน ลวดลายสวยงาม สวมใส่สบาย สีไม่ตก สะดวกต่อการซักรีด มีจุดเด่นตรงที่มีสี มีลวดลาย มีรูปแบบที่หลากหลาย การันตีด้วยรางวัลในด้านของการพัฒนาการย้อมคราม ผ้าฝ้าย และผ้าครามย้อมทับ และรางวัลผลิตภัณฑ์หัตถกรรมยอดเยี่ยมอีกด้วย เมื่อขาช็อปมีความสุขกับการจับจ่ายใช้สอยผ้าทอย้อมครามแบรนด์ “นิศาชล” กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราเดินทางกันต่อมาที่ วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง เพื่อมากราบสักการะ “หลวงพ่อพระใส” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ที่ วัดโพธิ์ชัย แห่งนี้ คณะของเราได้ร่วมกันทำบุญ ถวายปัจจัยและเทียนพรรษา เพื่อความเป็นสิริมงคล หลวงพ่อพระใส เป็นองค์พระพุทธรูปหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวหนองคายเชื่อกันว่าหากได้มากราบไหว้ขอพรแล้ว จะประสบความสำเร็จ สมความปรารถนาดังคำอธิษฐาน พร้อมทั้งชีวิตจะมีความสุข ความเจริญและมีโชคลาภ ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปีจะมีงานสมโภชน์ยิ่งใหญ่ และอัญเชิญองค์หลวงพ่อพระใสแห่รอบเมืองเพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำกันอย่างทั่วถึงด้วย  ไม่ไกลจากวัดโพธิ์ชัยมากนัก คณะฯของเราได้มาเที่ยวชม ศาลาแก้วกู่ อุทยานเทวาลัย สำนักพุทธมามกะสมาคม จังหวัดหนองคาย เป็นศูนย์รวมงานประติมากรรมสร้างด้วยความศรัทธา ที่ยิ่งใหญ่เป็นเมืองอมตะแก้วกู่มหานิพพาน หรือดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง
ยามเย็นบวกกับอากาศที่เย็นสบายสไตร์หนองคาย เราไม่พลาดที่จะเดินเล่นชิล ชิลบนถนนคนเดินริมน้ำโขงเมืองหนองคายพร้อมอิ่มอร่อยมื้อเย็นอาหารเวียตนามที่ แดงแหนมเนืองสัมผัสบรรยากาศริมโขงยามค่ำคืน
ตี 4 ตื่น ตี 5 คณะคาราวานทัวร์ “เส้นไหม ใยฝ้าย ลายหมี่-ขิด วิถีชีวิตชุมชน” เสื้อผ้า หน้าผม พร้อมแล้วในชุดผ้าไทยประยุกต์ เพื่อไปเติมบุญกับประเพณีตักบาตรข้าวเหนียว ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ บริเวณริมแม่น้ำโขงกัน ชาวชุมชนท่าเสด็จ เขตเทศบาลเมืองหนองคาย คุณจิรนันท์ สกุลตั้งไพศาล เจ้าของร้าน ณ ตลาดท่าเรือ หนองคาย และอุปนายกชมรมท่องเที่ยวหนองคาย เล่าให้ฟังว่า กิจกรรมตักบาตรพระสงฆ์ริมฝั่งโขงนี้จัดขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและชูจุดเด่นความเป็นเมืองพุทธของ ซึ่งมีวัดมากถึงร้อยกว่าวัดเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ประชาชนชาวหนองคายมักจะทำบุญตักบาตรเป็นประจำทุกวัน แต่เป็นในลักษณะการตักบาตรหน้าบ้านของตัวเอง ดังนั้นจึงได้จัดสถานที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตั้งแต่ท่าเรือหายโศก ไปจนถึงริมฝั่งโขงซอยฮ่อ ระยะทาง 750 เมตร นิมนต์พระสงฆ์วันละ 30-50 รูป จากวัดต่าง ๆ มารับบิณฑบาตทุกวัน ซึ่งนอกจากจะได้ทำบุญตักบาตรแล้ว ยังได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวหนองคายที่ยึดมั่นในพระพุทธศาสนาและได้บรรยากาศการทำบุญตักบาตรข้าวเหนียวเช่นเดียวกับที่หลวงพระบาง ประเทศลาว และขณะนี้ชุมชนท่าเสด็จได้ประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการทัวร์ท่องเที่ยว จัดโปรแกรมตักบาตรตอนเช้าให้กับนักท่องเที่ยวด้วย ไม่ต้องเดินทางไกลไปสัมผัสบรรยากาศที่หลวงพระบาง มาที่จังหวัดหนองคายก็สามารถได้ความรู้สึกเช่นเดียวกัน กิจกรรมที่ขาดไม่ได้ถ้ามากับ Phototech ช้อปปิ้ง!!! กระจายรายได้กันอย่างจุใจที่ ตลาดผ้านาข่า แหล่งรวมผ้านานาชนิด หลากสี หลายแบบ หลายราคาไม่แวะไม่ได้แล้วล่ะ
ตลาดผ้าบ้านนาข่า เป็นการรวมกลุ่มทอผ้าซึ่งกลุ่มนี้ทอผ้าบ้านนาข่า เป็นกลุ่มที่ได้ก่อตั้งมาเป็นเวลานานแล้ว จนมีการบริหารจัดการได้ในเชิงธุรกิจ จากกลุ่มใหญ่แยกมาเป็นกลุ่มย่อย ในส่วนของอุตสาหกรรมภายในครัวเรือนในตลาดผ้านาข่าก็จะมีร้านรวงมากมายขายผ้าหมี่ขิดหรือผ้าไหมลายขิด ซึ่งแต่ละผืนผ่านการทอเก็บขิด ลวดลายของขิดแต่ละลายจะมีรูปแบบที่สวยงาม มีความมัน วาว นูน เป็นเอกลักษณ์ของผ้าอีสาน และนอกจากผืนผ้าแล้ว แต่ละร้านก็ยังนำเสนอออกมาเป็นผลิตภัณฑ์อย่าง เสื้อ กางเกง กระโปรง ผ้าพันคอ หมอนอิง ของที่ระลึก และอีกสารพัดสิ่ง ด้วยลายผ้าสวยๆ ทั้งนั้น
ก่อนเดินทางกลับ คณะฯของเราได้ร่วมใจกันเดินทางมาที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงาน อุดรธานี เพื่อขอบคุณท่านผอ.อัจฉพรรณ บุญเจริญ ให้การต้อนรับ ดูแล พวกเราอย่างอบอุ่น พาไปทานอาหารเลิศรสและยังได้มอบเสื้อเป็นที่ระลึกให้กับคณะเราทุกท่านอีกด้วย ทั้งนี้ทางทีมงาน Phototech ขอถือโอกาสนี้มอบภาพถ่ายและของที่ระลึกแก่ท่านผอ.ซึ่งจะเกษียณอายุในวันที่30 กย. 58 นี้ ถือเป็นการอำลาอุดรธานี –หนองคายที่ซึ้งใจจริงๆ. รักนะ…อุดรธานี