ททท.สมุทรสงคราม ร่วมกับ เทศบาลตำบลอัมพวา เชิญชวนร่วมงาน เมืองไทยตลาดน้ำอัมพวา เดินวิ่งมินิมาราธอน ครั้งที่ 1@สมุทรสงคราม
ททท.สมุทรสงคราม ร่วมกับ เทศบาลตำบลอัมพวา เชิญชวนร่วมงาน เมืองไทยตลาดน้ำอัมพวา เดินวิ่งมินิมาราธอน ครั้งที่ 1@สมุทรสงคราม
นายปัญญา งามเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วยนายวงเทพ เขมวิรัตน์ นายอำเภออัมพวา นายพิสิฐ เสือสมิง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม นายสรรชัย อารยอสนี นายกเทศมนตรีตำบลอัมพวา คุณพิมพกานต์ พิพิธธนานันท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุทรสงคราม พ.ต.อ.สุรพงษ์ สุรเชษฐพงษ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอัมพวา คุณรัชดา พุ่มสุวรรณ ผู้ช่วยกรรมการบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน)และนายแพทย์ มัยธัช สามเสน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาชัยร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “เมืองไทย-ตลาดน้ำอัมพวาเดินวิ่งมินิมาราธอนครั้งที่ 1 “ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภออัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม คุณพิมพกานต์ พิพิธธนานันท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดสมุทรสงคราม (สมุทรสงคราม นครปฐม สมุทรสาคร) เปิดเผยว่า ด้วยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุทรสงคราม ร่วมกับ เทศบาลตำบลอัมพวา บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และชมรมคนรักอัมพวา ได้กำหนดจัดงาน “เมืองไทย – ตลาดน้ำอัมพวาเดินวิ่ง มินิมาราธอน ครั้งที่ 1” ในวันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2558 ณ ตลาดน้ำอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม โดยงานนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปได้ออกกำลังกาย และส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในจังหวัดสมุทรสงครามให้มากยิ่งขึ้น
สมุทรสงครามยังไม่สถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวที่จะมาเยือนเมืองสมุทรสงครามที่ไม่ควรพลาดได้แก่ วัดเพชรสมุทรวรวิหาร สักการะหลวงพ่อวัดบ้านแหลมศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงครามเดิมชื่อว่า “วัดศรีจำปา”สร้างขึ้นในราวรัชสมัยพระเจ้าปราสาททองแห่งกรุงศรีอยุธยา ตามตำนานเล่าว่า ในปีพ.ศ.2307ชาวบ้านแหลมในเขตเมืองเพชรบุรีอพยพหนีพม่ามาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณตำบลแม่กลองเหนือวัดศรีจำปาและเรียกหมู่บ้านนี้ว่า “บ้านแหลม” ตามชื่อหมู่บ้านเดิมของตนชาวบ้านแหลมได้ช่วยกันบูรณะวัดศรีจำปาและเรียกวัดนี้ใหม่ว่า “วัดบ้านแหลม”ต่อมาวัดบ้านแหลมได้ยกฐานะขึ้นเป็นอารามหลวงชั้นวรวิหาร ได้รับพระราชทานนามว่า “วัดเพชรสมุทรวรวิหาร” หลวงพ่อวัดบ้านแหลมเป็นพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตรหล่อด้วยทองเหลืองแบบสมัย สุโขทัยตอนปลาย ภายในโปร่งขนาดส่วนสูง 170 เซนติเมตรประดิษฐานยืนอยู่บนแท่น ภายในพระอุโบสถวัดบ้านแหลม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงครามตามประวัติที่จารึกกล่าวไว้ว่า หลวงพ่อได้ล่องลอยน้ำลงมาจากทางเหนือพร้อมกัน ๓องค์แสดงอภินิหารให้ผู้คนเห็นมาตลอดลำแม่น้ำเจ้าพระยา และ ครั้งหนึ่งได้ล่องลอยมาถึงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาตอนสามเสนประชาชนสามแสนกว่าคนประสงค์ที่จะนิมนต์หลวงพ่อขึ้นบนฝั่งช่วยกันเอาเชือกผูกมัดองค์หลวงพ่อแล้วช่วยกันฉุดลากแต่ก็ไม่สามารถจะนำหลวงพ่อขึ้นฝั่งได้และท่านก็จมน้ำหายไปจากที่นั้น ต่อจากนั้นท่านก็ได้แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ผุดให้คนเห็นในที่ต่าง ๆกันเรื่อยมาจนในที่สุดก็ได้มาประดิษฐานเป็นมิ่งขวัญอยู่ในพระอุโบสถวัดบ้านแหลมนี้จนถึงปัจจุบัน
และไฮไลท์ที่ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเป็นอย่างดีก็คือ ตลาดร่มหุบหรืออีกชื่อหนึ่งว่า ตลาดแม่กลอง แต่ชาวบ้านมักจะเรียกว่า ตลาดเสี่ยงตายเป็นตลาดที่ติดอยู่กับ สถานีรถไฟแม่กลอง และก็เป็นส่วนหนึ่งของตลาดเทศบาลจังหวัดสมุดสงคราม
ตลาดร่มหุบ เริ่มมาตั้งขาย บริเวณทางริมรถไฟประมาณปี พ.ศ. 2527 เป็นตลาดที่อยู่บนทางรถไฟ สายแม่กลอง-บ้านแหลมพ่อค้า-แม่ค้า ตั้งแผงสองข้างทางรถไฟ ส่วนลูกค้าก็อาศัยทางรถไฟเป็นถนน สำหรับจับจ่ายซื้อของ นักท่องเที่ยวหลายคน ใช้ วิธีท่องเที่ยว โดยการมาขึ้น รถไฟที่สถานีรถไฟบ้านแหลม มายังสถานีรถไฟแม่กลอง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ กระจาด กระบุง ตะกร้า จะถูกจัดวางเข้าๆออกๆ อย่างเป็นระเบียบและรวดเร็วภายในพริบตา รถไฟขบวนนี้เป็น สายสั้น จากสถานีมหาชัยถึงสถานีแม่กลอง เมื่อได้ยินเสียงระฆังหรือธงที่โบกสะบัด จากนายสถานีก็เริ่มจับตามองต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เรียกได้ว่าเป็นงานประจำของพ่อค้าแม่ขายทั้งหลายเหล่านี้ แต่เป็นเสน่ห์และความสนุกสนานของบรรดานักท่องเที่ยวนั่นเอง เมื่อรถไฟผ่านไปทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิม
และเขาบอกต่อๆกันมาว่า ถ้าอยากกินลิ้นจี่ให้อร่อยสุดยอดลิ้นจี่ก็อยู่ที่แม่กลองนี่แหละแม่กลอง ด้วยเป็นเวลากว่าร้อยปีที่ชาวสวนลิ้นจี่แม่กลอง สามารถพัฒนาสายพันธุ์สีสัน รสชาติ จนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างความโดดเด่นของตนเอง โดยเป็นความโดดเด่นในแง่ของรสชาติของลิ้นจี่พันธุ์ “ค่อม”ผู้เป็นราชินีแห่งลิ้นจี่เมืองแม่กลอง เมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่นในภาคกลางและภาคเหนือ นอกจากนี้โดยที่ลักษณะของต้นลิ้นจี่ของสมุทรสงครามไม่ค่อยสูง เป็นพุ่มแจ้ให้ผลดก จึงได้ชื่อว่า”ค่อม”ยังมีต้นลิ้นจี่ที่มีอายุถึง 200 ปี ให้เห็นในทุกวันนี้อีกด้วย โดยพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมากจนทำชื่อเสียงให้กับจังหวัดสมุทรสงครามคือ “พันธุ์ค่อมลำเจียก” แต่ก็ยังมีพันธุ์อื่นๆด้วยเช่น กะโหลก ใบยาว จีน ไทย สำเภาแก้ว และสาแหรกทองเป็นต้น คุณพิมพกานต์ กล่าวทิ้งท้ายต่ออีกว่า สำหรับการจัดงานครั้งนี้ เป็นงานที่เปิดโอกาสให้กับทุกๆท่านที่มีใจรักในการออกกำลังกาย หรืออาจจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา ก็สามารถมาเข้าร่วมงานได้ ดังนั้น งานนี้จึงไม่ควรพลาดสำหรับคนรักสุขภาพและนักท่องเที่ยวที่สนใจทุกท่าน อีกทั้งยังได้เที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวบ้านตลอดเส้นทางการวิ่งและเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเทศบาลตำบลอัมพวา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม โทร. 034-751351 และ 034-751359 ,คุณสุรพล โทร.090-985-3597,คุณมานพ โทร. 085-919-1668หรือ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม โทร. 0 3475 2847-8 e-mail : tatsmsk@tat.or.th หรือ TAT Call Center 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย