CPRAM ตอกย้ำความเป็นผู้นำ FOOD PROVIDER พร้อมยกระดับศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารของภูมิภาคเอเซีย
CPRAM ตอกย้ำความเป็นผู้นำ FOOD PROVIDER พร้อมยกระดับศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารของภูมิภาคเอเซีย
นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า ซีพีแรมเดินทางผ่านยุคต่างๆ จวบจนปัจจุบันยุคที่ 7 คือ “ยุคศรีอัจฉริยะ” แต่ละยุคใช้เวลา 5 ปี ยุคนี้ซีพีแรมยกระดับขีดความสามารถขององค์กรด้วย CPRAM 4.0 ขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยี และเป็นผู้นำ 3S (FOOD SAFETY, FOOD SECURITY, FOOD SUSTAINABILITY) สู่ความยั่งยืนของอุตสาหกรรมอาหารของโลก รวมถึงกำหนดยุทธศาสตร์องค์กรยุคที่ 7 ระยะ 5 ปีด้วย “CPRAM Transformation Roadmap” ซึ่งประกอบด้วย Organization Transformation, New Business (Vending machine, Catering Service), Digitalization, Robotization, และจัดตั้ง FTEC (Food Technology Exchange Center) พร้อมตั้งเป้าหมายยอดขาย 20,000 ล้านบาท ในปี 2019 ด้วยกลยุทธ์การขยายตลาดทั้งเชิงลึกตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของผู้บริโภค และเชิงกว้างสู่ภูมิภาคทั่วประเทศไทย มีสัดส่วนการยอดขายอาหารพร้อมรับประทาน 65% และเบเกอรี่ 35% ด้วยผลิตภัณฑ์กว่า 900 SKUs โดยมีสินค้าและบริการในกลุ่มบริษัท ซีพีแรม จำกัด อาทิ แบรนด์เจด ดราก้อน, แบรนด์เลอแปง, แบรนด์เดลี่ไทย, แบรนด์เดลิกาเซีย, แบรนด์ ซีพีแรม แคทเทอริ่ง, และแบรนด์ฟู้ดดี้ดี เป็นต้น จำหน่ายผ่านช่องทางร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ กว่า 20,000 แห่ง รวมถึงส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก
นายวิเศษ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากการที่สังคมไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน ซีพีแรม จึงได้พัฒนาสินค้าออกมาตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งตอนนี้ทำออกมาวางตลาดแล้ว คือ ข้าวต้มผู้สูงวัย มีคุณสมบัติ เคี้ยวแหลกง่าย ดูดซึมได้ดี และมีคุณค่าทางโภชนาการที่ผู้สูงอายุต้องการเป็นเพราะกลุ่มผู้สูงอายุต้องการกินอาหารไม่เหมือนคนปกติ นอกจากนี้ ซีพีแรมยังได้พัฒนาอาหารสุขภาพและอาหารสำหรับบุคคลเฉพาะกลุ่ม เข้าไปตอบโจทย์ความต้องการ อาทิ กลุ่มผู้ป่วยหรือมีโรคประจำตัว ซึ่งต้องการอาหารคุณสมบัติพิเศษ เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ต้องการอาหารที่หวานน้อย หรืออาหารมีความหวานปกติ แต่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วอัตราการดูดซึมความหวานต่ำ ไม่ทำให้ปริมาณน้ำตาลในร่างกายปรับเพิ่มขึ้น เป็นต้น “ แนวทางปฏิบัติที่ซีพีแรมและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ได้ยึดมั่นและให้ความสำคัญเสมอมา ในการร่วมกันส่งมอบความดีคู่ความเก่งให้กับผู้บริโภคและสังคมในเวลาเดียวกัน ผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่ร้อยเรียงกันมาตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำจึงมีส่วนสำคัญในการตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคและสังคมทั้งสิ้น เราเรียกการร้อยเรียงของผู้ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำนี้ว่า ห่วงโซ่อุปทาน หรือ SUPPLY CHAIN และร่วมส่งมอบความดีคู่ความเก่งให้กับผู้บริโภคและสังคมเพื่อความปลอดภัยอาหาร ความมั่งคงอาหาร และความยั่งยืนอาหาร 3 เรื่อง หรือเรียกว่า 3S ทั้ง 3S (FOOD SAFETY, FOOD SECURITY, FOOD SUSTAINABILITY) ไม่ได้เป็นเรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง เราจะต้องร่วมกันทำตลอดห่วงโซ่อุปทานส่งมอบความดีคู่ความเก่งใน 3S นี้ให้กับผู้บริโภคและสังคมเป็นเนื้อเดียวกัน อาทิ โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต โครงการปูม้ายั่งยืนคู่ทะเลไทย คนรุ่นใหม่ไร้ Food waste เป็นต้น ” นายวิเศษ กล่าวสรุป