เชฟรอน ตอบโจทย์คนเมือง“รวมพลังตามรอยพ่อฯ” ปี 6
เชฟรอน ตอบโจทย์คนเมือง“รวมพลังตามรอยพ่อฯ” ปี 6
ขยายผลจัดการ ดิน-น้ำ-ป่า ตามศาสตร์พระราชา
www.Thainewsvision.com
ข่าว -ภาพ พาฝัน ปิ่นทองบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับ สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)เดินทางก้าวสู่ปีที่ 6 อย่างต่อเนื่อง กับโครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” ตั้งเป้าจัด 4 กิจกรรมเอามื้อ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโครงการในพระราชดำริฯ มากำหนดพื้นที่เป้าหมาย เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงแสดงความห่วงใยประชาชนต่อปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง พร้อมสานต่อแนวทางศาสตร์พระราชาด้านบริหารจัดการดิน-น้ำ-ป่าอย่างยั่งยืน ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า“โครงการฯ นี้ ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จนเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมของคนที่นำแนวทางศาสตร์พระราชาไปลงมือปฏิบัติ ส่งผลให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จนสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยโครงการนี้ดำเนินงานต่อเนื่องด้วยแนวคิด ‘แตกตัวทั่วไทย เอามื้อสามัคคี’ เพื่อชี้ให้เห็นตัวอย่างการ ‘แตกตัว’ ขยายผลจากลุ่มน้ำป่าสักไปยังลุ่มน้ำอื่นๆ โดยนำกลยุทธ์การ ‘เอามื้อสามัคคี’ หรือ การลงแขกตามประเพณีดั้งเดิมของคนไทยมาเป็นกลวิธีในการขับเคลื่อน เพื่อประสานความสามัคคีเชื่อมโยงและขยายเครือข่ายต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งในปัจจุบันได้ขยายผลออกไปถึง 24 ลุ่มน้ำแล้ว
สำหรับพื้นที่ฐานธรรมธุรกิจ พระราม 9 นายพิเชษฐ โตนิติวงศ์ ผู้จัดการธรรมธุรกิจ เล่าว่า “หลังจากธุรกิจโรงสีล้มละลาย ก็ได้เข้าร่วมอบรมที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง และได้พูดคุยกับ อ.ยักษ์(ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร) และพี่โจน (โจน จันใด) จนเข้าใจในศาสตร์พระราชาที่ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาด้านการเกษตร แต่เป็นแนวทางการใช้ชีวิต จึงจัดตั้งโครงการ ‘ฐานธรรมธุรกิจ’ เพื่อเป็นตลาดกลางกระจายสินค้าของเครือข่ายทั่วประเทศ ในราคาเป็นธรรมต่อผู้ซื้อและผู้ผลิตซึ่งต่อไปวางแผนว่าจะทำร้านอาหารเพื่อแปรรูปผลผลิตจากเครือข่ายที่เหลือจากการขาย ตอบโจทย์คนเมืองที่ไม่ค่อยทำกับข้าวกินเอง เน้นเรื่องอาหารและสุขภาพเป็นหลัก กิจกรรมในวันนี้ จึงเกี่ยวกับการย่ำก้อนดิน เพื่อสร้างบ้านดินสำหรับร้านอาหารแปรรูป สอนเพาะเมล็ดพันธุ์กล้าไม้และทำแปลงผักในภาชนะต่างๆ แบบคนเมือง และเรียนรู้การปรุงดิน ทำปุ๋ย และสร้างโมเดล โคก หนอง นา ขนาดเล็กในพื้นที่ให้เป็นตัวอย่างสำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัด ในอนาคต ก็การวางแผนจะขยายงานไปที่เชียงใหม่ และบ้านศรีฐาน ยโสธรด้วย” โดยภายหลังจากนี้ โครงการฯ ยังคงเดินทางไปเผยแพร่องค์ความรู้ของศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่น มาสู่การลงมือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ อีก 3 พื้นที่ ดังนี้ วันที่ 8-10 มิถุนายน 2561 ไปเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ ที่บ้านสวนอิสรีย์เกษตรอินทรีย์และฟาร์มม้าเมืองจันท์ของ แววศิริ ฤทธิโยธี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
วันที่ 24-26 สิงหาคม 2561 ชมตัวอย่างชุมชนกสิกรรมวิถี ณ หมู่บ้านสุขสมบูรณ์ ในพื้นที่ของบอย-พิษณุ นิ่มสกุล อ.หนองแซง จ.สระบุรี วันที่ 26-28 ตุลาคม 2561 ร่วมหาคำตอบว่าคนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างไร ณ พื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ.เวียงสา จ.น่าน นำโดยบัณฑิต ฉิมชาติหัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีน่าน และสุดาพร พรหมรักษา เจ้าของพื้นที่บ้านน้ำปี้ ต.น้ำมวก อ.เวียงสา จ.น่าน
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมได้ทาง www.facebook.com/ajourneyinspiredbytheking