โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตทตัดเชือก 5 ผลงาน Young Social Innovator ดันเป็นโครงงานต้นแบบด้านการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นพร้อมใช้งานจริงในชุมชน
โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตทตัดเชือก 5 ผลงาน Young Social Innovator ดันเป็นโครงงานต้นแบบด้านการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นพร้อมใช้งานจริงในชุมชน
www.Thainewsvision.com
นายณรงค์ชัย วิสูตรชัย ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสรัฐกิจสัมพันธ์และกิจการสาธารณะ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยวันนี้ ว่า GPSC ได้จัดกิจกรรมแข่งขันและประกาศผลการคัดเลือกโครงการ GPSC Young Social Innovator 2020 ปีที่ 3
โดยในปีนี้ได้รับความสนใจจากสถาบันการศึกษาและเยาวชนส่งผลงานโครงงานสิ่งประดิษฐ์ ภายใต้แนวคิด “พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน จำนวนกว่า 300 ผลงาน จากทั่วประเทศ โดยมีผลงานที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก จำนวน 30 ทีม

โดยแบ่งออกเป็นภาคเหนือ 1 ผลงาน ภาคกลาง 13 ผลงาน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 ผลงาน ภาคตะวันออก 4 ผลงาน และภาคใต้ 6 ผลงาน เพื่อที่จะเข้าสู่การคัดเลือกในรอบชิงชนะเลิศ จำนวน 5 ทีมสุดท้าย ที่จะได้รับทุนสนับสนุนจากบริษัทฯ เพื่อนำไปต่อยอดการพัฒนาองค์ความรู้ และใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ เป็นโครงการต้นแบบด้านการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่น การพัฒนาพลังงานที่มีประสิทธิภาพ พร้อมใช้งานจริงในชุมชน
อาทิ การสร้างนวัตกรรมจากการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่น จนนำไปสู่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 












สำหรับผลงานที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ จำนวน 5 ผลงาน ประกอบด้วย
2. ทีม YOUNG SCIENCE SR โรงเรียนสหราษฎร์รังสฤษดิ์ จังหวัดนครพนม ชื่อผลงาน กรดจากน้ำปลาส้มผสมซิงค์ออกไซด์ ลดกลิ่น ต้านเชื้อรา เพิ่มน้ำหนักยางพารา
3. ทีม young’s box โรงเรียน คีรีมาศพิทยาคม จังหวัดสุโขทัย ชื่อผลงาน กล่องยืดอายุผลไม้
โดยทั้ง 5 ทีม ได้กำหนดจัดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศโครงการ YSI ซีซั่น 3 ในช่วงต้นปี 2564 ซึ่งทีมชนะเลิศจะได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประกาศนียบัตรและทุนการศึกษา จำนวน 50,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง รองชนะเลิศอันดับสอง และรางวัลชมเชย 2 รางวัล จะได้รับโล่รางวัล ประกาศนียบัตรและทุนการศึกษาจำนวน 30,000 บาท 20,000 บาท และ 10,000 บาท ตามลำดับ




















