หน่วยฯ ลพบุรี ทำฝนช่วยพื้นที่เกษตรปลูกข้าวโพด-อ้อย ในพื้นที่ภาคกลาง
หน่วยฯ ลพบุรี ทำฝนช่วยพื้นที่เกษตรปลูกข้าวโพด-อ้อย ในพื้นที่ภาคกลาง
www.Thainewsvision.com
วันที่ 27 พฤษภาคม 2565 นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (26 พ.ค. 2565) กรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง
จ.ลพบุรี มีการติดตามสถานการณ์การเพาะปลูกของพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งได้รับการประสานจากอาสาสมัครฝนหลวงว่า บริเวณ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เริ่มทำการหยอดข้าวโพด ซึ่งมีความต้องการน้ำมากสำหรับการเจริญเติบโตตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน และพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีฝนตกปริมาณเพียงเล็กน้อย และไม่ต่อเนื่องประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ทำให้มีน้ำไม่เพียงพอสำหรับการเพาะปลูก เช่นเดียวกับบริเวณตอนล่างของ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ช่วงรอยต่อกับ จ.สุพรรณบุรี ที่พบว่า อ้อยที่อยู่ในระยะแตกกอ มีความต้องการน้ำอย่างต่อเนื่องเช่นกัน หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ลพบุรี จึงได้ติดตามสภาพอากาศและวางแผนปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือ ทำให้มีฝนตกเล็กน้อยในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ จะยังคงติดตามสถานการณ์น้ำและสภาวะอากาศเพื่อให้ช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องต่อไปด้านการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำในภูมิภาคอื่นๆ กรมฝนหลวงฯ ยังคงติดตามสถานการณ์เป็นประจำทุกวันและเน้นปฏิบัติการฝนหลวงภารกิจเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่มีความต้องการน้ำ ตามข้อมูลการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ครั้งที่ 20/2565 เมื่อวันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 โดยกรมชลประทาน รายงานถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ (35 แห่ง) ปัจจุบันปริมาณน้ำทั้งประเทศ รวม 39,512 ล้าน ลบ.ม. และสามารถนำมาใช้ได้ 15,970 ล้าน ลบ.ม. โดยที่ประชุมยืนยันให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเติมน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนขนาดใหญ่รวม 9 แห่ง ในพื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขื่อนห้วยหลวง เขื่อนน้ำอูน เขื่อนลำปาว ภาคกลาง อ่างเก็บน้ำทับเสลา และภาคตะวันออก อ่างเก็บน้ำคลองสียัด ซึ่งกรมฝนหลวงฯ จะปฏิบัติการทันทีเมื่อสภาพอากาศเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอรองรับระยะฝนทิ้งช่วงที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ในการวางแผนบินปฏิบัติการจะหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำเพียงพอแล้ว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกร ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชนยังสามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่ช่องทางเพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account TikTok : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100 อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวทิ้งท้าย