สํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนาทั่วประเทศ
สํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนาทั่วประเทศ
www.Thainewsvision.com
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประธานการดำเนินโครงการฯ กล่าวว่า “โครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา ภายใต้แนวคิด “ต้นไม้ยั่งยืน กองทุนมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง” เป็นโครงการความร่วมมือของภาคีเครือข่าย 8 องค์กร ประกอบด้วย สํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กรมป่าไม้ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) และธนาคารออมสิน เพื่อเป็นการผนึกกำลังและขับเคลื่อนโครงการกองทุนต้นไม้ฯ ได้อย่างมั่นคงและเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้
นายนที ขลิบทอง ผู้อํานวยการสํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนเป็นองค์กรภาคประชาชนที่ก่อตั้งมา 18 ปี มีการตั้งกองทุนฯ รวมกว่า 70,000 กองทุนทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการปลูกต้นไม้ผ่านโครงการกองทุนต้นไม้ร่วมพัฒนา ภายใต้แนวคิด ต้นไม้ยั่งยืน กองทุนมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง ให้เต็มแผ่นดินให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นการสร้างสินทรัพย์แผ่นดิน คือ ต้นไม้ โดยนอกจาก “ต้นไม้” จะสามารถเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้แล้ว ยังสามารถขยายไปสู่การเป็นสินทรัพย์ และสามารถนำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้อีกด้วย นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างงาน และรายได้ อาทิ อาชีพในการเพาะกล้าไม้ ทำเรือนเพาะชำ ซึ่งเป็นการส่งเสริมอาชีพและส่งเสริมรายได้ให้กับสมาชิกกองทุนฯ และประชาชนในหมู่บ้านและชุมชน
2 ส่วน คือ 1. ผู้ต้องการปลูกต้นไม้ สามารถระบุความต้องการกล้าไม้ เพื่อทางกองทุนฯ จะได้จัดเตรียม และ 2. ผู้ประสงค์ทำเพาะชำกล้าไม้ ที่จะสร้างเป็นศูนย์เพาะชำกล้าไม้ เพื่อบริการแก่สมาชิกต่อไป โดยในวันที่ 5 ธันวาคม 2562 เป็นวันที่ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาคีและเปิดปฏิบัติการการอบรมกล้าไม้ และในวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเป็นวันขึ้นปีที่ 20 ของกองทุนหมู่บ้านฯ จะได้เชิญชวนให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ” เจ็ดหมื่นกว่ากองทุนทั่วประเทศ ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ เพื่อสร้างสินทรัพย์ และความอุดมสมบูรณ์ให้กับแผ่นดินร่วมกัน นายนที ขลิบทอง กล่าวเพิ่มเติม