สธ. สสส. และภาคีจับมือจัดประชุมวิชาการอัดแน่นความรู้ขับเคลื่อนแผนส่งเสริมการสร้างสุขภาวะที่ดีให้คนวัยทำงาน
สธ. สสส. และภาคีจับมือจัดประชุมวิชาการอัดแน่นความรู้
ขับเคลื่อนแผนส่งเสริมการสร้างสุขภาวะที่ดีให้คนวัยทำงาน
www.Thainewsvision.com
สธ. สสส. จับมือร่วมกัน 6 ภาคีเครือข่าย จัดประชุมวิชาการโดยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลและส่งเสริมสุขภาพ ทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมให้ความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ พร้อมชี้แนะแนวทางสู่ความสำเร็จการดำเนินงานงานด้านการส่งเสริมสุขภาวะที่ดีแก่คนวัยทำงานในสถานประกอบการอย่างมีส่วนร่วมตามนโยบายรัฐ พร้อมจัดพิธีมอบโล่รางวัล-ใบรับรอง ให้องค์กรต้นแบบที่ผ่านการรับรอง จำนวน 49 องค์กร ก่อนขยายโครงการ Healthy living สู่พื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ หวังเพิ่มศักยภาพการเติบโตภาคอุตสาหกรรมควบคู่คนทำงานมีสุขภาวะที่ดี ได้รับการตอบรับอย่างดี โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 400 คน
วันที่ 21 มีนาคม 2566 นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ที่ปรึกษาระดับกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านสาธารณสุข) ผู้อำนวยการสำนักบริหารยุทธศาสตร์สุขภาพดีวิถีชีวิตไทย เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ “เสริมพลังกาย สร้างพลังความรู้ สู่สุขภาวะคนทำงานในสถานประกอบการอย่างมีส่วนร่วม (Healthy Living)” ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (TISI) และสำนักงานประกันสังคม มาร่วมแบ่งปันความรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ดำเนินงานนำไปสู่การขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาวะที่ดีให้แก่คนวัยทำงานในสถานประกอบการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสนับสนุนการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม ณ โรงแรม ทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น นายแพทย์ภัทรพล กล่าวว่า การประชุมวิชาการในวันนี้ได้จัดให้มีพิธีมอบโล่รางวัลให้แก่สถานประกอบการต้นแบบ ด้าน Wellness Center และพิธีมอบใบรับรองให้แก่สถานประกอบการต้นแบบด้าน Wellness Center ซึ่งเป็นโครงการนำร่องในการดำเนินด้านการส่งเสริมสุขภาพแบบเชิงรุกที่ให้พนักงานภายในสถานประกอบการแบบองค์รวม โดยอาศัยความร่วมมือจากเจ้าของสถานประกอบการ ผู้นำด้านการดูแลสุขภาพ (Health Leader) และพนักงานทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและองค์กร โดยมีสถานพยาบาลพี่เลี้ยง (รพ.รัฐและเอกชน) ในเครือข่าย ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในการส่งเสริมการดูแลสุขภาพของพนักงานในสถานประกอบการ ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลด้านการส่งเสริมสุขภาพของพนักงาน ในสถานประกอบการให้สามารถได้รับการดูแลสุขภาพที่ดีอย่างทั่วถึงและผู้ประกอบการยังสามารถนำค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมเหล่านี้ไปใช้ในการลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการเปิดเวทีเสวนาวิชาการให้ความรู้ในหัวข้อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องการการดูแลสุขภาพที่ดีให้แก่คนวัยทงานโดยผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ เรื่อง “การสานพลังร่วมขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาวะคนทำงานในสถานประกอบการ : ก้าวที่ยิ่งใหญ่ของกลไกศูนย์สุขภาพดีวัยทำงาน” “การบรรยายเรื่องทิศทางโครงการ Healthy Living จากวันนั้นถึงวันนี้และก้าวต่อไปในอนาคตข้างหน้า” รวมถึงมีการร่วมแบ่งปันความรู้ในหัวข้อ “ทำอย่างไรจึงจะขับเคลื่อนศูนย์สุขภาพดีวัยทำงานให้ประสบความสำเร็จในมุมมองของผู้บริหาร นักวิชาการ และผู้ปฏิบัติงาน” และการจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพคนวันทำงานจากโรงพยาบาลและสถานประกอบการที่ร่วมดำเนินงานโครงการฯ รวมกว่า 30 แห่งอีกด้วย “การสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับบุคลากรในสถานประกอบการรวมถึงการสร้างวิถีให้เกิดการทำงานในรูปแบบ Healthy Living ได้จะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี ส่งเสริมให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นการสร้างองค์ความรู้และมีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาสู่สถานที่ทำงานหรือสถานประกอบการจึงเป็นเรื่องที่องค์กรต่างๆ ควรให้ความสำคัญเพราะนั่นจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพและคุณภาพของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมส่งเสริมการเติบโตขององค์กรรวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันประสิทธิภาพแรงงานของสถานประกอบการในประเทศให้ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆได้” นายแพทย์ภัทรพล กล่าว