ฝนหลวงฯ เน้นเติมน้ำเขื่อนภูมิพล-เขื่อนสิริกิติ์ รองรับความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ภาคเหนือ
ฝนหลวงฯ เน้นเติมน้ำเขื่อนภูมิพล-เขื่อนสิริกิติ์ รองรับความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ภาคเหนือ
วันที่ 21 เมษายน 2565 นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 11 หน่วยฯ ทั่วประเทศ ยังคงวางแผนและเดินหน้าปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ที่มีความต้องการน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีปริมาณน้ำเพียงพอทั้งในด้านการเกษตร การอุปโภค-บริโภค และด้านอื่น ๆ โดยในช่วงนี้กรมฝนหลวงฯ ได้มีการเน้นภารกิจเติมน้ำให้กับเขื่อนภูมิพล จ.ตาก และเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เพื่อรองรับการใช้น้ำของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ เนื่องจากเขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนกักเก็บน้ำสำหรับการจัดสรรเพื่อการเกษตร และการผลิตกระแสไฟฟ้าให้เพียงพอในพื้นที่ภาคเหนือ ส่วนเขื่อนสิริกิติ์เป็นเขื่อนที่มีความสำคัญในการเก็บน้ำเพื่อกระจายไปยังพื้นที่เพาะปลูกในทุ่งราบสองฝั่งแม่น้ำน่านกับพื้นที่ทุ่งเจ้าพระยาทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้ง
และจากข้อมูลปริมาณน้ำในเขื่อน
(19 เม.ย. 2565) พบว่า เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำ 6,057.9 ล้าน.ลบ.ม. (45%) และเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำ 3,804ล้าน.ลบ.ม. (40%) ซึ่งมีปริมาณน้ำใช้การต่ำกว่า 50% กรมฝนหลวงฯ จึงได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และวางแผนปฏิบัติการช่วยเหลือในพื้นที่ดังกล่าว โดยจากผลการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงวันที่ 16 – 19 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ตาก พิษณุโลก และ จ.แพร่ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์อย่างต่อเนื่อง
นายสำเริง กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในด้านการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรปัจจุบัน จากข้อมูลพื้นที่ขอรับบริการฝนหลวง (ประจำวันที่ 16 – 19 เมษายน 2565) จากทั่วทุกภูมิภาค พบว่า มีจำนวนรวม 31 จังหวัด 71 อำเภอ โดยมีผู้ขอรับบริการฝนหลวง จำนวนรวม 87 ราย ได้แก่ พื้นที่ภาคเหนือจำนวน 15 ราย ภาคกลาง จำนวน 28 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 16 ราย ภาคตะวันออก จำนวน 26 ราย และภาคใต้ จำนวน 2 ราย ซึ่งจากผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ ตาก พิษณุโลก แพร่ และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง สามารถช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ อ.งาว แม่พระ จ.ลำปาง อ.เมืองแพร่ สูงเม่น ลอง จ.แพร่ อ.สันติสุข จ.น่าน อ.บ้านโป่ง ราชบุรี และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ อ่างเก็บน้ำแม่จางและอ่างเก็บน้ำแม่ขาม จ.ลำปาง อีกด้วย
สำหรับแผนการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ (20 เม.ย. 2565) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 6 หน่วยฯ ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ตอนบน มีแผนบินปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักเขื่อนสิริกิติ์และอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ รวมถึงปฏิบัติภารกิจยับยั้งและบรรเทาความรุนแรงของการเกิดพายุลูกเห็บ บริเวณภาคเหนือตอนล่าง สำหรับหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อีก 5 หน่วยฯ ยังคงเฝ้าติดตามสภาพอากาศ รวมถึงสถานการณ์ของพายุลูกเห็บ และปัญหาฝุ่นละออง หมอกควัน-ไฟป่า เพื่อเตรียมพร้อมวางแผนปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทันที
ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่ช่องทาง เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account TikTok : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100 นายสำเริง กล่าวทิ้งท้าย