บีจีซี ตอกย้ำศักยภาพผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วอันดับ 1 ในอาเซียน
บีจีซี ตอกย้ำศักยภาพผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วอันดับ 1 ในอาเซียน
www.Thainewsvision.com
ข่าว -ภาพ พาฝัน ปิ่นทองบีจี คอนเทนเนอร์กล๊าส ในเครือบริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน)โชว์ศักยภาพปฏิบัติการโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้ว ที่จังหวัดอยุธยา ตอกย้ำความสำเร็จผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน
อัดงบอีก 2,500 ล้านบาท เตรียมพร้อมขยายไลน์การผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง ที่จังหวัดราชบุรี รองรับการขยายตัวของตลาดบรรจุภัณฑ์แก้ว ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมนำระบบ PPC เพื่อใช้ควบคุมการขึ้นรูปขวดแก้วให้ได้มาตรฐาน
และ เตรียมเปิดห้องปฏิบัติการ Clean room สำหรับควบคุมปริมาณฝุ่นในอากาศ และสิ่งแปลกปลอมไม่ให้ปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ ตอกย้ำประสิทธิภาพการผลิตที่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคเป็นสำคัญ
พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอย่างต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ มั่นใจมูลค่าตลาดบรรจุภัณฑ์แก้วยังเติบโตขึ้นอีก ไม่ต่ำกว่า 4% หลังกวาดรายได้ในปีที่ผ่านมากว่า12,000 ล้านบาท
นายสมพร เต็มอุดมสมบูรณ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการผลิต เปิดเผยว่า “จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดและกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน
ด้วยกำลังการผลิต 3,335 ตันต่อวัน โดยในส่วนบรรจุภัณฑ์แก้ว ประมาณ 50% ผลิตให้กับเครือบุญรอด อีก 50% ให้ลูกค้าภายนอก หลักๆ เป็น อาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ขวดยา และอีกประมาณ 5% จะเป็นตลาดส่งออก
โดยในปีนี้ บริษัทฯ จึงได้เตรียมการขยายโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วเพิ่มอีก 1 แห่ง ที่จังหวัดราชบุรี มูลค่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 320 ตันต่อวัน
โดยโรงงานนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2561 จากโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วทั้งหมด 5 แห่ง ในปัจจุบันได้แก่
จังหวัดปทุมธานี กำลังการผลิตประมาณ 560 ตันต่อวันจาก 3 เตาหลอม 9 ไลน์
จังหวัดขอนแก่น กำลังการผลิตประมาณ 735 ตันต่อวันจาก 2 เตาหลอม 5 ไลน์จังหวัดระยอง กำลังการผลิตประมาณ 240 ตันต่อวันจาก 2 เตาหลอม 6 ไลน์
จังหวัดปราจีนบุรี กำลังการผลิตประมาณ 180 ตันต่อวันจาก 1 เตาหลอม 2 ไลน์ปัจจุบันโรงงานของบีจีซี ที่จังหวัดอยุธยา มีกำลังการผลิตประมาณ 1,620 ตันต่อวันจาก 4 เตาหลอม 14 ไลน์ ซึ่งเป็นโรงงานที่มีกำลังผลิตมากที่สุดของบีจีซีในปัจุบัน
และคาดว่าในปี 2561 บีจีซีจะมีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 3,655 ตันต่อวันหลังจากการเปิดตัวโรงงานที่จังหวัดราชบุรี
ทั้งนี้ล่าสุด บีจีซีเตรียมเปิดห้องปฏิบัติการ Clean room ที่โรงงานจังหวัดอยุธยา เป็นห้องที่มีระบบอากาศพิเศษ เพื่อควบคุมปริมาณฝุ่นในอากาศ และสิ่งแปลกปลอมไม่ให้ปนเปื้อนในบรรจุภัณฑ์ ช่วยให้บรรจุภัณฑ์แก้วสะอาดปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
รวมถึงยังมุ่งเน้นการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิต ลดการใช้สารเคมี ตลอดจนการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนโดยรอบโรงงานตามแนวทางของกระทรวงอุตสาหกรรมอีกด้วย