“น็อตโตะ“ ขอแนะ 3 จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นในกรุงเทพฯ ที่จะเปลี่ยนใจให้คุณ “อยากตื่นเช้า“
หลายคนคุ้นเคยกับภาพบรรยากาศกรุงเทพมหานครในยามเช้าว่าเป็นภาพแห่งความเร่งรีบ ทุกคนใช้ชีวิตแข่งกับเวลา คุ้นหูคุ้นตากับภาพรถราที่เบียดเสียด จนบางทีทำให้เวลาเช้าๆ ของทุกคนเป็นเวลาแห่งความตึงเครียด รีบเร่ง จนพลาดที่จะมองเห็นความงดงามบางอย่างในยามเช้าของกรุงเทพฯ
แต่ใครจะรู้ว่าแค่เราขยับปรับเวลาให้ตื่นขึ้นมาเร็วกว่าคนอื่นอีกสักนิด เราจะพบกับภาพของกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยความสงบ สดชื่น เป็นความรู้สึกที่ผ่อนคลาย อบอุ่น และมีความสุขได้อย่างไม่น่าเชื่อ “น็อตโตะ-วรางคณิภา พวงธนะสาร” มีสถานที่ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นในกรุงเทพฯ 3 ที่เด็ดๆ มาแนะนำให้ลองได้ไปสัมผัสกับบรรยากาศนี้กัน
จุดแรก “ตึกใบหยก 2”
ตึกใบหยกถือเป็นจุดที่สูงที่สุดในกรุงเทพมหานคร ในยามเย็นยาวไปถึงพลบค่ำเราสามารถมองเห็นกรุงเทพมหานครในยามหลับไหลกันแบบเต็มๆ ตา เห็นแสงไฟน้อยใหญ่ระยิบระยับอยู่ทั่วเมืองสวยงามติดตาตรึงใจทั้งชาวไทย และ ต่างประเทศมานักต่อนัก
แต่อีกมิติหนึ่งที่หลายๆ คนยังไม่ค่อยได้สัมผัสนั้นคือการได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สงบเงียบ เย็นสบาย ในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าใจกลางกรุงเทพมหานคร ในช่วงเวลาประมาณหกโมงเช้าเมื่อเราได้ยืนมองที่ตึกแห่งนี้ เราจะเห็นความสวยงามของพระอาทิตย์ ที่สาดส่องมาพร้อมกับเสียงของลม และไอหมอกจางๆ
และเมื่อทอดสายตามองออกไปรอบๆ เราจะเห็นวิวแบบพาโนรามาของกรุงเทพฯ สัมผัสกับความสงบของเมืองหลวงของเราในอีกแง่มุม ซึ่งอากาศบนตึกใบหยกแห่งนี้จะเย็นสบายแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อนก็ตาม แต่ขอย้ำว่าต้องตื่นเช้าจริงๆ เพราะว่าบรรยากาศแบบนี้เราจะเจอะเจอได้ช่วงเช้าเท่านั้น
หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้น ก็สามารถรับประทานอาหารเช้าบนตึกใบหยก 2 ได้เลย กับบุฟเฟต์อาหารนานาชาติเลือกสรรได้ตามความชอบ ได้ทานอาหารอร่อยๆ ชมวิวสวยๆ อิ่มตา อิ่มท้อง แถมได้มุมมองใหม่ในชีวิตอีกด้วย อยากให้ลองไปชมวิวยามเช้าบนตึกใบหยก 2 กันดูด้วยตาตัวเองสักครั้งค่ะ
จุดที่สอง “วัดอรุณฯ หรือวัดแจ้ง”
“น็อตโตะ” เชื่อว่าหลายๆ คนเคยแต่มาชมภาพบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกดินของวัดอรุณฯ ซึ่งจะมองเห็นภาพความงดงามนี้ได้เมื่อเราอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดอรุณฯ และในจุดนี้ถือว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินสวยงามมากๆ ของกรุงเทพฯ แต่ “น็อตโตะ” อยากนำเสนอภาพของพระอาทิตย์ที่ค่อยๆ ฉายแสงขึ้น
ดังนั้นเราจึงต้องเดินทางมาที่วัดอรุณฯ เพื่อที่จะคอยดูพระอาทิตย์ค่อยๆ ขึ้นอย่างช้าๆ ไปพร้อมๆ กับการชื่นชมบรรยากาศวิถีชีวิตของชุมชนริมน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เห็นพระออกบิณฑบาตร ได้เห็นผู้คนที่ออกมาใช้ชีวิตในยามเช้าที่สดใส ท่ามกลางบรรยากาศที่สดชื่น
เมื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จก็สามารถนั่งเรือข้ามฟากมาเพียงอึดใจเดียวเพื่อเข้าเทียบฝั่งท่าช้าง มาเดินจับจ่ายของกินแสนอร่อยที่ตลาดเช้า เห็นแล้วแทบอยากจะแวะเข้าไปอุดหนุนแทบทุกร้าน นอกจากของกินก็ยังมีสินคาแบกะดินหลากหลายชนิดจัดสรรวางขายให้ได้จับจ่ายใช้สอยกันตามชอบใจ
ส่วนใครจะต่อด้วยทริปทำบุญเก้าวัด “น็อตโตะ” ก็ขอแนะนำว่าย่านนี้เป็นย่านสำคัญในการทำบุญของชาวพุทธจริงๆ เพราะมีวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญๆ มากมายอยู่รอบๆ บริเวณ กราบพระขอพรเสร็จบางคนจะเข้าไปกราบไหว้เอาฤกษ์เอาชัยที่ศาลหลักเมือง ของกรุงเทพมหานครก็ยังได้ จุดนี้เป็นอีกจุดที่ “น็อตโตะ” คิดว่ามีความงดงามทั้งในยามค่ำ และยามเช้าให้เราได้เลือกสัมผัสกับกับแบบจุใจ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
จุดที่สาม “ทางเชื่อมรถไฟฟ้า BTS สถานนีช่องนนทรี”
ใครจะคิดว่าย่านธุรกิจที่มีแต่ความวุ่นวาย ผู้คนจอแจ บนถนนหนทางใจกลางกรุงเทพมหานคร ที่เหล่าคนเมือง ในช่วงเวลาประมาณหกโมงกว่าๆ จะมีมุมมองที่แสนงดงามของแสงแดดยามเช้า ที่พระอาทิตย์ลัดเลาะเซาะมุมตึกรามน้อยใหญ่ ค่อยๆ เผยให้เห็นลำแสงรำไร ส่องประกายต้อนรับวันทำงาน และวันพักผ่อนของคนใจกลางเมืองใหญ่ และโดดเด่นตั้งตระหง่านเป็นฉากหลังให้กับตึกสูงเสียดฟ้า
กลายเป็นอีกบรรยากาศ ที่ทำให้เราได้เห็นพระอาทิตย์ดวงเดียวกันของทุกคนบนโลกนี้ ที่ออกมาโชว์ตัวในสถานที่ที่แตกต่างกัน แต่ยังคงทำหน้าที่ให้ความสวยงาม และแรงบันดาลใจสำหรับคนที่ตื่นเช้าเป็นประจำอย่าง “น็อตโตะ” และคนอื่นๆ อยู่ไม่น้อย ในทุกๆ เช้าที่เราตื่นขึ้นมารับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ “น็อตโตะ” รู้สึกเหมือนกับว่าเราได้รับพลังอย่างบอกไม่ถูก
หลายๆ ครั้งที่มีโอกาสแวะเวียนไปชมความงดงามในยามเช้าของที่นี้ ทำให้เราได้เห็นความสวยงามของชาวพุธในเมืองใหญ่ เห็นคนทำงานหนุ่มสาว มาทำงานแต่เช้า พร้อมกับได้ตักบาตรให้กับพระสงฆ์ที่เดินบิณฑบาตรบนทางเชื่อมของรถไฟฟ้า
แม้ว่านักธุรกิจในย่านนั้น เหล่าคนทำงาน ต่างเดินทางไปทำงานด้วยฝีเท้าที่รีบเร่งแบบคนเมือง ทุกคนก็ยังคงปฎิบัติตามวิถีชาวพุทธ รับพรรับบุญในการเริ่มต้นวันใหม่ของตัวเองด้วยการทำบุญใส่บาตร นั่งลงกราบพระ เป็นภาพที่น่าประทับใจสำหรับ “น็อตโตะ” มากๆ ค่ะ