ดีเจไอ สโตร์ ไทยแลนด์ จำกัด (สำนักงานใหญ่) รุกตลาดเครื่องเล่น “โดรน” (Drone) พร้อมเปิดตัวแบรนด์ DJI อย่างเป็นทางการ คาดหวังเป็นผู้นำตลาด Drone และ Stebilizer Camera ในประเทศไทย
ดีเจไอ สโตร์ ไทยแลนด์ จำกัด (สำนักงานใหญ่) รุกตลาดเครื่องเล่น “โดรน” (Drone) พร้อมเปิดตัวแบรนด์ DJI อย่างเป็นทางการ คาดหวังเป็นผู้นำตลาด Drone และ Stebilizer Camera ในประเทศไทย
นายนฤพนธ์ ถมทอง กรรมการผู้จัดการ ดีเจไอ สโตร์ ไทยแลนด์ จำกัด (สำนักงานใหญ่) ได้เปิดเผยว่า “จากจุดเริ่มต้นที่เป็นผู้สนใจในอุปกรณ์ประเภท Radio Control อยู่แล้วและชื่นชอบในแบรนด์ DJI จึงได้เล็งเห็นช่องว่างทางการตลาดว่าปัจจุบัน แบรนด์นี้ยังไม่มีใครในประเทศไทยที่นำเข้ามาอย่างเป็นทางการและกลุ่มเป้าหมายเองก็ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จึงมีแนวคิดที่จะนำแบรนด์นี้เข้ามา เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และให้คนไทยได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง
โดยในครั้งนี้เราได้เปิดร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในลักษณะของ“Premium Reseller ” ในชื่อว่า DJI Store Thailand ขึ้นบนชั้น 2 ของโครงการ คริสตัล พาร์ค เฟส 3 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ทั้งนี้เพื่อเป็นศูนย์กลางให้ลูกค้าได้เข้ามาเลือกซื้อสินค้าของ DJI และเพิ่มความมั่นใจที่ได้เห็นสินค้าจริง พร้อมทั้งทีมงานมืออาชีพที่คอยให้คำปรึกษาและแนะนำเพื่อเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างถูกต้อง
ทางด้านนายณัฐชนน ชีวะวัฒนากร กรรมการผู้จัดการ ดีเจไอ สโตร์ ไทยแลนด์ จำกัด (สำนักงานใหญ่) ได้กล่าวเพิ่มเติมในส่วนของผลิตภัณฑ์ว่า สำหรับในเบื้องต้นนี้ สินค้าหลักๆ ที่นำเข้ามามีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ คือ 1.โดรน 2. Stebilizer Camera โดยมีไฮไลท์อยู่ที่สองรุ่นคือ Phantom โดรนรุ่นยอดฮิต ใช้งานง่ายคุณภาพดีที่มืออาชีพเลือกใช้ และ Osmo Action Camera ที่มาพร้อม Stebilizer กันสั่นถึง3 แกน ทำให้ภาพไม่สะดุด ลื่นไหลอย่างมืออาชีพถ่าย ให้คุณภาพไฟล์คมชัดระดับ 4K ทำให้ไม่พลาดทุกการถ่ายภาพและง่ายต่อการเก็บรายละเอียดได้อย่างชัดเจน สามารถใช้งาน ตอบโจทย์มืออาชีพ และเป็นผู้นำตลาด Drone และStebilizer Cameraของโลก มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ใช้งานง่ายกว่าแบรนด์อื่นๆ คุณภาพวัสดุที่ใช้ในการผลิต แข็งแรงทนทานและมีประสิทธิภาพสูง โดยมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ ทั้งหญิงและชายที่ชอบ RC,Gadget,Camera และกลุ่มงานProduction,การศึกษา,งานวิจัย,งานเกษตรกรรม โดยราคาเฉลี่ยของสินค้า เริ่มต้นที่ 22,000 – 250,000 บาท สำหรับงบประมาณทางการตลาด เราได้มีการวางแผนทางการตลาดสำหรับเปิดตลาดในปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาท โดยเน้นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการจัดอีเวนท์ที่ร้าน การทำประชาสัมพันธ์ผ่านทั้งสื่อออนไลน์และสิ่งพิมพ์ต่างๆ พร้อมทั้งเตรียมขยายสาขาทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดอีกด้วย