คณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการจัดประชุมสมัชชาฯ ครั้งที่ 11 วันที่ 12-14 ธ.ค.นี้ ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ
คณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการจัดประชุมสมัชชาฯ ครั้งที่ 11 วันที่ 12-14 ธ.ค.นี้ ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ
www.Thainewsvision.com
นพ.กิจจา เรืองไทย ประธาน คจ.สช. เปิดเผยว่า สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เป็นกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพ ตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ปีนี้ สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 11 จัดภายใต้แนวคิดหลัก “รู้เท่าทันสุขภาพ ร่วมสร้างสังคมสุขภาวะ” เน้นย้ำความสำคัญของระบบสุขภาพในโลกยุค 4.0 ที่โรคหลายชนิดเกิดจากพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น ผู้บริโภคจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจและมีทักษะในการดูแลตนเอง ท่ามกลางข้อมูลข่าวสารยุคดิจิทัลที่ท่วมท้นและสื่อสารถึงกันอย่างรวดเร็ว ปี 2561 จึงมีระเบียบวาระสำคัญ 4 เรื่องที่จะเข้าสู่การพิจารณาเพื่อเสนอนโยบายสาธารณะในการจัดการปัญหา ได้แก่ 1.ความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคไม่ติดต่อ 2.การร่วมสร้างสรรค์พื้นที่สาธารณะในเขตเมืองเพื่อสุขภาวะสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน 3.ความรับผิดชอบร่วมทางสังคมเกี่ยวกับอีสปอร์ตต่อสุขภาวะเด็ก และ 4.การคุ้มครองผู้บริโภคด้านบริการทันตกรรม
“ระเบียบวาระที่จะพิจารณากันในปีนี้ จะเป็นการเสนอทางออกของโรคที่ป้องกันและจัดการได้ด้วยการปรับวิถีชีวิตของประชาชน โดยจะเห็นได้ว่าทั้ง 4 เรื่องล้วนสอดคล้องกับวิถีชีวิตคนในยุคดิจิทัลทั้งสิ้น ปีนี้เราจึงได้ขยายกลุ่มสมาชิกไปยังภาคีเครือข่ายคนรุ่นใหม่ นิสิต นักศึกษา และผู้นำท้องถิ่นต่างๆ เพื่อให้เกิดพลังการขับเคลื่อนมติไปสู่การปฏิบัติในอนาคตด้วย ทั้งนี้ คาดว่าปีนี้จะมีภาคีเครือข่ายและผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน” ประธาน คจ.สช. กล่าว
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อดีตประธาน คจ.สช. ปี 2559-2560 ปัจจุบันเป็น กรรมการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติกล่าวว่า 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ พ.ศ.2551-2560 ได้เกิดมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติขึ้นแล้ว จำนวน 77 มติ โดยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติได้ให้ความสำคัญกับการติดตามเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนมติไปสู่ภาคปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการแต่งตั้ง คณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คมส.) ซึ่งมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร) เป็นประธาน ทุกปีในเวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติจึงมีการรายงานผลสำเร็จของการขับเคลื่อนมติ รวมทั้งเปิดเวทีแลกเปลี่ยนหาทางออกร่วมกันของภาคีเครือข่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นที่ยังคงมีปัญหาอุปสรรคที่ทำให้การนำไปปฏิบัติไม่เกิดผลด้วย
นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การจัดการปัญหาโรคไม่ติดต่อที่สำคัญ ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยก่อนวัยอันควรจำนวนมาก จำเป็นต้องสร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในการสร้างความรู้เท่าทันด้านสุขภาพให้แก่ผู้ป่วยและผู้บริโภค ให้ประชาชนมีความสามารถในการค้นหาคำตอบ เข้าถึงแหล่งข้อมูล ตรวจสอบ ทำความเข้าใจ และนำข้อมูลไปใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์และความจำเป็น โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาระบบจัดการและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสุขภาพ ส่งเสริมกิจการที่รับผิดชอบต่อสังคม พัฒนาชุดสิทธิประโยชน์หลักด้านสุขภาพและขับเคลื่อนนโยบายเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพผ่านกลไกระดับชาติและพื้นที่ และส่งเสริมการวิจัยระบบสุขภาพเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคไม่ติดต่อ ซึ่งจะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตและสามารถลดภาระงบประมาณที่ใช้ในระบบสุขภาพได้อีกด้วย
การประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้ง 11 พ.ศ.2561 ในปีนี้ นอกจากการพิจารณา 4 ระเบียบวาระสำคัญ และรายงานผลสำเร็จการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติที่ผ่านมาแล้ว ยังมีกิจกรรมน่าเรียนรู้ และร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น ทั้งนิทรรศการที่บอกเล่าหลากหลายเรื่องราวในลานสมัชชาสุขภาพ และห้องเสวนานโยบายสาธารณะที่น่าสนใจ เช่น ‘ธนาคารเวลา: นโยบายสร้างจิตอาสาในสังคมผู้สูงอายุ’,‘สิทธิด้านสุขภาพของกลุ่มประชากรเปราะบางกลุ่มผู้ต้องขังหญิง’ เป็นต้น ประชาชนผู้สนใจสามารถเข้าร่วม และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.samatcha.org